สองประตูของโรเจอร์สช่วยให้วิลล่าขยายสถิติชนะติดต่อกันเป็น 9 นัด ufa169

Rogers

Rogers เบิ้ล! Villa คัมแบ็กโหด ชนะ West Ham 3-2 ต่อสถิติชนะรวด 9 นัด ยังเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์แบบไม่ต้องเกรงใจใคร ufa169

ถ้าคุณกำลังมองหาเกมที่รวมทุกอารมณ์ของพรีเมียร์ลีกไว้ใน 90 นาที เกมนี้คือคำตอบแบบไม่ต้องคิดเยอะ West Ham ได้เริ่มต้นเหมือนฝัน ยิงขึ้นนำแทบจะทันที แต่ Aston Villa ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เพราะโชคช่วย เพราะต่อให้โดนนำสองครั้ง ต่อให้บรรยากาศในสนามตึงและเต็มไปด้วยความรู้สึกจากการไว้อาลัยอดีตตำนานสโมสร พวกเขาก็ยังกลับมาได้ พร้อมจบด้วยช็อตที่สวยที่สุดของคืนจาก Morgan Rogers

ชัยชนะ 3-2 เกมนี้ไม่ใช่แค่ “สามแต้ม” แต่มันคือการตอกย้ำว่า Villa ในซีซันนี้มีอะไรบางอย่างที่ต่างไปจากอดีต ความนิ่ง ความเชื่อมั่น และการมีนักเตะที่พร้อมตัดสินเกมในจังหวะสำคัญ ทำให้ทีมของอูไน เอเมรี ยืนอยู่ในบทสนทนา “ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก” ได้อย่างเต็มปาก

ก่อนเกม: อารมณ์ทั้งสนาม และการรำลึกถึง Billy Bonds

ก่อนเสียงนกหวีดเริ่มเกม West Ham ใช้ช่วงเวลาสำคัญเพื่อรำลึกถึง Billy Bonds อดีตกัปตัน ผู้จัดการทีม และเจ้าของสถิติลงสนามสูงสุดของสโมสรที่เพิ่งจากไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ภาพบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความเคารพทำให้เกมนี้มีความหมายมากกว่าเรื่องแต้มในตาราง

อดีตเพื่อนร่วมทีมระดับตำนานอย่าง Sir Trevor Brooking และ Alvin Martin ลงมายืนในสนาม ขณะที่บริเวณอัฒจันทร์ที่ตั้งชื่อตาม Bonds มีภาพของเขากำลังชูถ้วยเอฟเอคัพแขวนอยู่ เป็นภาพที่ทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านรู้สึกเหมือนต้อง “สู้เพื่อเขา” และนี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ West Ham เปิดเกมแบบดุดันสุด ๆ ตั้งแต่วินาทีแรก

บทความต้นทางยังเชื่อมโยงความทรงจำย้อนกลับไปถึงเกมดิวิชันหนึ่งในปี 1983 ที่อัพตันพาร์ก เมื่อ Bonds เคยมีจังหวะปะทะกับ Peter Withe กองหน้าของ Villa แต่แทนที่จะเดือดจนมีใบเหลือง เหตุการณ์กลับจบแบบน่าจดจำเพราะ Bonds ดึงมือ Withe แล้ว “เต้น” เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ กลายเป็นโมเมนต์ฟุตบอลคลาสสิกที่สะท้อนความเป็นผู้นำและความสุขุมของเขา

และในค่ำคืนนี้ แม้ความทรงจำจะสวยงาม แต่ผลการแข่งขันกลับเป็นฝั่ง Villa ที่ “วอลซ์” เดินจากไปพร้อมสามแต้มแทน

29 วินาที! West Ham ยิงเร็วที่สุดของฤดูกาล ทำเอา Villa สะดุ้งทั้งทีม

เกมเริ่มได้ไม่ถึงครึ่งนาที West Ham ก็ปล่อยหมัดแรกใส่แบบไม่ให้ตั้งตัว เอซรี คอนซา ทำช้าใกล้เส้นหลัง ก่อนโดน มาเตอุส แฟร์นันเดส ฉกบอลไปยิงมุมแคบผ่าน มาร์โก บิซ็อต นายทวารสำรองของ Villa บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าหลังคาตาข่ายอย่างเฉียบคม

นอกจากทำให้ West Ham นำเร็วแบบสุดขีด ประตูนี้ยังถูกบันทึกว่าเป็น “ประตูที่เร็วที่สุดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้” ในเวลานั้น แซงหน้าประตูของ Hugo Ekitike ที่เพิ่งทำให้ลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้เพียง 24 ชั่วโมง มันคือช่วงเวลาที่ทั้งสนามระเบิดเสียงเชียร์ เหมือนค่ำคืนนี้ถูกลิขิตให้เป็นคืนของเจ้าบ้าน

แต่ฟุตบอลไม่เคยใจดีขนาดนั้น โดยเฉพาะกับทีมที่กำลังชนะรวดและมีความมั่นใจแบบ Villa

Villa ไม่ตื่น! ตีเสมอไวจาก “เข้าประตูตัวเอง” ของ Mavropanos

หลังโดนนำเร็ว คนดูจำนวนมากคิดว่าเกมอาจหลุดไปทาง West Ham เพราะ Villa ต้องตั้งหลักใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Villa ไม่ได้เสียรูปทรง พวกเขายังคุมเกมตามสไตล์ของเอเมรี พยายามดันบอลเข้าพื้นที่ริมเส้น และเปิดเข้ากลางให้มีการจบสกอร์

และแล้วในนาทีที่ 9 Villa ตีเสมอได้จากจังหวะเปิดของ John McGinn ที่พุ่งเข้ากรอบเขตโทษ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส พยายามประกบ Ollie Watkins แต่ดันโหม่งผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง กลายเป็น 1-1 แบบที่แฟน West Ham ได้แต่กุมหัว

ประตูนี้สำคัญมาก เพราะมันเปลี่ยน “อารมณ์เกม” จากที่ West Ham กำลังคุมโมเมนตัม ให้กลับมาสู่เกมเปิดที่ทั้งสองทีมมีสิทธิ์ชนะ และเมื่อเกมกลายเป็นการแลกหมัด Villa ดูจะเป็นทีมที่มีความนิ่งกว่า

West Ham นำอีกครั้ง! Bowen โผล่ยิงแบบกองหน้าตัวจริง

อย่างไรก็ตาม West Ham ยังไม่ยอมให้เกมไหลไปทางเดียว ในนาทีที่ 24 พวกเขาขึ้นนำอีกครั้งจากลูกยิงของ Jarrod Bowen ที่แสดงสัญชาตญาณ “นักล่าหน้าประตู” แบบเต็ม ๆ

จังหวะนั้นเริ่มจากลูกยิงของ Freddie Potts ที่เหมือนจะไม่อันตรายมาก แต่ Bowen อ่านทางบอลไว ยื่นเท้าเปลี่ยนทางเข้าประตูไปได้ ขณะที่แนวรับ Villa มีจุดให้ตำหนิอีกครั้ง เพราะคอนซาเป็นคน “เล่นออฟไซด์พลาด” ทำให้ Bowen ไม่ล้ำหน้าและสามารถเล่นบอลได้สบาย

สกอร์เป็น 2-1 และเกมเหมือนจะส่งสัญญาณว่า “วันนี้ West Ham เอาจริง” เพราะการนำสองครั้งในเกมเดียว ไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะกับทีมที่กำลังหนีตกชั้น พวกเขาต้องการทุกแต้มแบบไม่สนว่าคู่แข่งเป็นใคร

จุดเปลี่ยนที่แท้จริง: Paquetá พลาดในแดนตัวเอง แล้ว Villa ลงโทษทันที

ครึ่งแรกจบลงด้วยความเดือดที่แทบจะวางใจไม่ได้ พอเริ่มครึ่งหลัง Villa ก็ยกระดับความเร็วทันที และเพียง 5 นาทีหลังพักครึ่ง เกมก็ถูกลากเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่ชัดที่สุด

ลูคัส ปาเกต้า ซึ่งกำลังมีเกมที่ค่อนข้างมีอิทธิพล กลับเสียบอลแบบไม่จำเป็นในแดนตัวเอง เขาเลือกจ่าย/ครองบอลแบบเสี่ยง และเมื่อบอลหลุด Youri Tielemans ก็พุ่งขึ้นหน้าเหมือนสปริง ก่อนไหลบอลออกข้างแล้วเปิดเข้ากลางให้ Morgan Rogers

จังหวะของ Rogers คือภาพของนักเตะที่ “มั่นใจเต็มร้อย” เขามีเวลาแตะบอลหนึ่งจังหวะ หมุนตัว แล้วอัดเต็มแรงเข้าประตูไปแบบที่กองหลัง West Ham ยังเข้าถึงตัวไม่ทัน สกอร์กลับมาเป็น 2-2 และแฟน Villa ที่ตามมาเชียร์เริ่มได้กลิ่นชัยชนะทันที เพราะสิ่งที่ทีมลุ้นแชมป์มีเหมือนกันคือ พวกเขาไม่ปล่อยโอกาสที่คู่แข่งยื่นให้หลุดมือ

Bowen เกือบฝัง! แต่ธงล้ำหน้าช่วย Villa รอดแบบเส้นยาแดง

หลังโดนตีเสมอ West Ham พยายามตั้งหลักและหาจังหวะสวนกลับอีกครั้ง และมีช่วงหนึ่งที่ Bowen ส่งบอลเข้าตาข่ายได้อีกหน แต่โดนจับล้ำหน้าแบบเฉียดฉิว ทำให้สกอร์ยังคงเท่าเดิม

จังหวะแบบนี้มักเป็น “เสี้ยววินาทีของชะตา” ถ้าประตูนั้นไม่ล้ำหน้า West Ham อาจได้แรงใจกลับมาอีกระลอก เกมอาจเปลี่ยนหน้าทันที แต่เมื่อประตูไม่มา ความรู้สึกของเจ้าบ้านเหมือนถูกดึงลง และ Villa ก็ยิ่งเล่นด้วยความเชื่อมั่นมากขึ้น

25 หลาสุดสะใจ! Rogers ปิดจ็อบด้วยลูกยิงที่พูดได้คำเดียวว่า “โหด”

เกมทำท่าจะจบด้วยผลเสมอ หรือไม่ก็ต้องวัดกันที่ความผิดพลาดอีกครั้ง จนกระทั่งเหลือเวลา 11 นาที Morgan Rogers ก็สร้างช็อตที่ทำให้ทั้งสนามเงียบกริบ

เขาได้บอลนอกกรอบในระยะประมาณ 25 หลา จังหวะนั้นไม่ใช่ลูกตั้งเตะ ไม่ใช่การหลุดเดี่ยว แต่เป็นการตัดสินใจ “ยิงเลย” ด้วยเทคนิคที่ทั้งโค้ง ทั้งส่าย และดิ่งลงอย่างรวดเร็ว บอลพุ่งเสียบมุมบนแบบที่ผู้รักษาประตูแทบหมดสิทธิ์ สวยจนแม้แฟน West Ham หลายคนยังต้องยอมรับในใจ

ประตูนี้ไม่ใช่แค่ประตูชัย มันคือประตูที่สะท้อนสถานะของ Rogers ในทีมชุดนี้ เขาไม่ได้เป็นแค่กองกลางทำเกม แต่กำลังเป็น “คนตัดสินเกม” ให้ Villa ในช่วงที่ฤดูกาลเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง

10 ชนะจาก 11 เกม: ฟอร์มระดับ “เกินร้อยปี” ที่ Villa ไม่ได้เห็นบ่อย ๆ

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ Aston Villa เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 10 จาก 11 เกมหลังสุด เป็นช่วงผลงานที่ดีที่สุดของสโมสรในรอบกว่าหนึ่งศตวรรษตามที่บทความต้นทางระบุ ซึ่งพอเป็นสถิติระดับนั้น มันไม่ใช่เรื่องฟลุคแล้ว มันคือ “รูปแบบ” และ “มาตรฐาน” ที่ทีมสร้างขึ้นจริง

ในตารางคะแนน Villa ยังตามหลังจ่าฝูง Arsenal อยู่เพียง 3 แต้ม นี่คือระยะห่างที่พูดได้เต็มปากว่า “ยังอยู่ในมือ” เพราะพรีเมียร์ลีกไม่ได้ตัดสินกันในเดือนธันวาคม แต่มันวัดกันที่ความสม่ำเสมอจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย

ฝั่ง West Ham ยังคงจมอยู่โซนตกชั้น และเกมนี้ยิ่งน่าเจ็บ เพราะพวกเขา “ทำได้ดีพอจะชนะ” อย่างน้อยในช่วงต้นเกม แต่ความผิดพลาดเฉพาะตัวและการรับมือช่วงเวลาหลังเสียบอล ทำให้ทุกอย่างพังลงต่อหน้าแฟนบอล

ทำไม Villa ถึงดูเป็นทีมลุ้นแชมป์จริง: ความนิ่ง ตัวตัดสินเกม  การลงโทษความผิดพลาด

ถ้าจะสรุปภาพของ Villa จากเกมนี้เป็น 3 แกนใหญ่ จะเห็นชัดมากว่า

  1. ไม่ตื่นแม้โดนนำเร็ว
    ทีมที่หลุดง่าย มักพังตั้งแต่นาทีแรก แต่ Villa กลับคุมตัวเองได้
  2. มีคนที่ยืนขึ้นในนาทีสำคัญ
    Rogers ยิงสองประตูและมีลูกยิงปิดเกมระดับไฮไลต์ประจำสัปดาห์
  3. ลงโทษความผิดพลาดแบบไม่ปรานี
    ปาเกต้าเสียบอลครั้งเดียว Villa เปลี่ยนเป็นประตูได้ทันที

นี่คือสิ่งที่แยกทีมลุ้นแชมป์ออกจากทีม “เล่นดีเป็นช่วง ๆ” และมันคือเหตุผลที่ Villa ยังเกาะกลุ่มหัวตารางได้อย่างมั่นคง

บทสรุป: คืนของ Rogers และคำประกาศของ Aston Villa ว่า “เราเอาจริง”

เกมนี้จะถูกจดจำในหลายมุม สำหรับ West Ham มันคือคืนที่เริ่มต้นสวยงามเพื่อรำลึก Billy Bonds แต่จบลงด้วยความเจ็บปวดจากความผิดพลาด และความจริงของการหนีตกชั้นที่โหดมาก

แต่สำหรับ Aston Villa มันคือคืนที่พวกเขาย้ำชัดว่า การลุ้นแชมป์ไม่ได้เกิดจากคำพูดหรือกระแส มันเกิดจากการไปเยือนสนามที่กดดัน โดนนำสองครั้ง แล้วกลับมาชนะได้ด้วยคุณภาพและความนิ่ง

และถ้า Morgan Rogers รักษาฟอร์มระดับนี้ต่อไป คำถามอาจไม่ใช่แค่ว่า “Villa จะลุ้นแชมป์ได้ไหม” แต่อาจกลายเป็นว่า “ใครจะหยุดพวกเขาได้ต่างหาก”


พรีเมียร์ลีกคือเวทีของคนที่กล้าตัดสินใจในวินาทีที่คนอื่นลังเล และ Rogers เพิ่งโชว์ให้เห็นแบบเต็มตา อยากตามทุกจังหวะสำคัญให้ทันอารมณ์เกมและอ่านโมเมนตัมให้ขาด ไปต่อได้ที่ ufa169