Lionel Messi vs Thomas Müller พบกันอีกครั้ง โดยอินเตอร์ ไมอามี จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ เอฟซี ในรอบชิงชนะเลิศ MLS Cup 2025 ufa800
ศึก MLS Cup 2025 ระหว่าง Inter Miami และ Vancouver Whitecaps ไม่ได้เป็นเพียงการชิงแชมป์ลีกสูงสุดของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็น “บทล่าสุด” ของหนึ่งในคู่ปรับที่น่าจดจำที่สุดของโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน—การดวลกันระหว่าง Lionel Messi vs Thomas Müller
ในแง่ภาพจำของแฟนบอลทั่วโลก คู่นี้อาจไม่ใช่คู่ปรับแบบตรงตัวเหมือน Messi vs Cristiano Ronaldo แต่หากมองที่ผลการแข่งขันในแมตช์ใหญ่ระดับทัวร์นาเมนต์ และเกมชี้ชะตาหลายครั้งที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า Thomas Müller คือหนึ่งในผู้เล่นที่ “ทำร้ายความฝัน” ของ Messi มากที่สุดคนหนึ่งในเส้นทางอาชีพ
ก่อนถึงรอบชิง MLS Cup ที่ไมอามี ทั้งสองเคยเจอกันมาแล้ว 10 ครั้ง
- Messi ชนะ 3 นัด
- Müller ชนะ 7 นัด
- Messi ยิง 3 ประตู
- Müller ยิง 6 ประตู
และในเกมที่ 11 พวกเขาจะเจอกันในบริบทใหม่—ไม่ใช่ยูโรป หรือฟุตบอลโลก แต่เป็นเวที MLS ที่กำลังพยายามก้าวขึ้นมาอยู่ในสายตาแฟนบอลทั่วโลก
ด้านล่างนี้คือการ จัดอันดับแมตช์คลาสสิกของ Messi vs Müller จากน้อยไปหามาก ก่อนเข้าสู่คืนชี้ชะตาใน MLS Cup 2025
Lionel Messi vs Thomas Müller ตัวเลขภาพรวม
สถิติรวม (10 นัดก่อนหน้า)
- แข่ง 10 นัด
- Messi ชนะ 3
- Müller ชนะ 7
- Messi ยิง 3 ประตู
- Müller ยิง 6 ประตู
- นาทีลงสนามของ Messi: 930 นาที
- นาทีลงสนามของ Müller: 741 นาที
ตัวเลขเหล่านี้บอกชัดว่า เมื่อพูดถึง “ความสำเร็จในเกมสำคัญ” Müller มักอยู่ฝั่งที่ยิ้มมากกว่า แต่ในหลายแมตช์ ก็เป็นวันที่ Messi สร้างโมเมนต์ที่โลกจำไม่ลืมเช่นกัน
อันดับ 7 แมตช์อุ่นเครื่องทีมชาติที่ Messi กุมความได้เปรียบ
2010: เยอรมนี 0–1 อาร์เจนตินา
2012: เยอรมนี 1–3 อาร์เจนตินา
แม้ในฟุตบอลระดับสโมสรและทัวร์นาเมนต์ใหญ่ Müller จะเหนือกว่าในผลการแข่งขัน แต่ในเกมอุ่นเครื่องทีมชาติ กลับเป็น Messi ที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน
การเจอกันครั้งแรกในปี 2010 เป็นแมตช์อุ่นเครื่องที่เยอรมนีเปิดบ้านรับอาร์เจนตินา เกมนั้นจบลงด้วยสกอร์ 1–0 จากประตูชัยของ Gonzalo Higuaín ซึ่งต่อมากลายเป็นหนึ่งในดาวยิงคนสำคัญของ Inter Miami ก่อน Messi จะมาทำลายสถิติในภายหลัง เป็นเหมือนเชือกเส้นเล็ก ๆ ที่โยงจากยุคทีมชาติสู่ยุค MLS ในวันนี้
ในปี 2012 ทั้งคู่เจอกันอีกครั้ง เกมนั้น Messi ยิงหนึ่งประตูในชัยชนะ 3–1 ขณะที่ Müller ลงเล่นเพียง 32 นาที ผลสรุปคือ ในเวทีที่ไม่มีแรงกดดันมากเท่าทัวร์นาเมนต์ใหญ่ Messi เป็นฝ่ายคุมเกมและคว้าชัยได้ทั้งสองนัด ถือเป็นด้านหนึ่งของคู่ปรับคู่นี้ที่หลายคนมักลืมไป
อันดับ 6 ปะทะกันในยุค PSG: ฝัน UCL ที่ไม่เป็นจริงของ Messi
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2022–23 รอบ 16 ทีม
Bayern Munich 3–0 PSG (สกอร์รวม)
ช่วงเวลาที่ Messi อยู่กับ Paris Saint-Germain ถูกคาดหวังว่าอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะคว้า UCL อีกครั้ง แต่การเจอกับ Bayern Munich ที่มี Müller นำแนวรุก กลับกลายเป็นจุดจบอันเงียบงัน
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย PSG แพ้รวมสองนัด 0–3 แบบแทบไม่มีช่วงที่ได้เปรียบเลย แม้ Müller จะไม่ได้ทำประตูในครั้งนี้ แต่รูปเกมชัดเจนว่า Bayern เป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่าในทุกมิติ การเพรสซิ่ง การจัดระเบียบ และการควบคุมพื้นที่ ทำให้ Messi ไม่สามารถสร้างความแตกต่างเหมือนที่เคยทำกับ Barcelona
แมตช์นี้อาจไม่ใช่เกมที่ดราม่าที่สุดของคู่นี้ แต่เป็นอีกหนึ่งจุดที่ตอกย้ำว่า เส้นทาง UCL ช่วงท้ายของ Messi เต็มไปด้วยกำแพงใหญ่ที่ชื่อ Bayern Munich และในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ภาพของ Müller ในฐานะ “ผู้ขัดขวางเส้นทางแชมป์” ดูชัดขึ้นอีกหนึ่งระดับ
อันดับ 5 2012–13: ปีทองของ Bayern และฝันร้ายของ Barcelona
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2012–13 รอบรองชนะเลิศ
Bayern Munich 7–0 Barcelona (สกอร์รวม)
นี่คือหนึ่งในค่ำคืนที่เจ็บปวดที่สุดของบาร์เซโลน่ายุค Messi และเป็นหนึ่งในค่ำคืนที่งดงามที่สุดของ Thomas Müller ในเส้นทาง UCL
- นัดแรก Bayern เปิดบ้านถล่ม 4–0
- Müller ยิง 2 ประตู และมีอิทธิพลต่อเกมอย่างมหาศาล
- นัดสองที่คัมป์นู Barça ยังไม่อาจกลับมาได้ และท้ายที่สุดรวมสองนัดแพ้ 0–7
แม้ Messi จะไม่ได้ลงเล่นในเลกที่สองเพราะอาการบาดเจ็บ แต่การที่เขาอยู่ในสนามเลกแรกและไม่สามารถช่วยทีมได้ ทำให้แมตช์นี้ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนยุคจาก Barça ยุคทอง สู่ยุคที่ Bayern และทีมจากเยอรมนีก้าวขึ้นมาท้าทายอย่างเต็มตัว
หลังจากนั้น Bayern คว้าแชมป์ยุโรปด้วยการเอาชนะ Borussia Dortmund ในรอบชิง เป็นปีที่ Müller และเพื่อนร่วมทีมแตะจุดสูงสุดของยุคทองของพวกเขาอย่างแท้จริง
อันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2010: จุดเริ่มต้นของ “ฝันร้ายสีดำแดง”
ฟุตบอลโลก 2010 รอบก่อนรองชนะเลิศ
อาร์เจนตินา 0–4 เยอรมนี
ฟุตบอลโลก 2010 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ Messi กำลังเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จระดับชาติ ขณะที่ Müller เพิ่งอายุ 20 ปี แต่การเจอกันครั้งนี้ กลับเป็นวันที่โลกเริ่มรู้จักดาวรุ่งเยอรมันว่าสามารถเปลี่ยนเกมใหญ่ได้
เยอรมนียิงอาร์เจนตินา 4–0 และ Müller ทำหนึ่งประตูในเกมนั้น ก่อนจะจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ จากผลงาน 5 ประตูใน 6 นัด เกมนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งในแมตช์ที่ Müller ชนะ Messi แต่เป็น “จุดกำเนิด” ของบทบาทเขาในฐานะคนที่มักอยู่ฝั่งที่ทำลายความฝันของทีมที่มีเบอร์ 10 จากอาร์เจนตินา
แม้ท้ายที่สุดเยอรมนีจะพลาดท่าต่อสเปนในรอบรองชนะเลิศ แต่สำหรับคู่ Messi–Müller นี่คือจุดเริ่มต้นของภาพจำที่ยังตามมาจนถึงยุค MLS
อันดับ 3 ค่ำคืน 8–2: ความพ่ายแพ้ที่โลกไม่ลืม
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2019–20 รอบก่อนรองชนะเลิศ (นัดเดียวจบ)
Bayern Munich 8–2 Barcelona
นี่คือเกมที่แฟนบอลทั่วโลกรู้จักดีในฐานะ “ค่ำคืนมรณะของ Barcelona” และเป็นหนึ่งในความพ่ายแพ้ที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพของ Messi
เกมนี้แข่งที่สนามกลางในลิสบอน แบบนัดเดียวรู้ผล เพราะสถานการณ์ COVID-19
- Bayern ยิง 8 ประตู
- Müller ยิง 2 ประตู
- เกมรุกของ Barça พังแบบไร้ทิศทาง
- แนวรับเสียรูปทรงตั้งแต่นาทีแรกถึงนาทีสุดท้าย
นอกจากบทบาทของ Müller แล้ว เกมนี้ยังเป็นแมตช์สร้างชื่อของ Alphonso Davies แบ็กซ้ายดาวรุ่งของ Bayern ที่โชว์ฟอร์มสุดยอด จนต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงระหว่าง MLS กับเวทียุโรป และยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก เมื่อเวลาผ่านไป Müller กลายเป็นดาวเด่นของ Vancouver Whitecaps ซึ่งเป็นสโมสรในเมืองบ้านเกิดของ Davies เอง
อันดับ 2 การล้างแค้นของ Messi ใน UCL 2014–15
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2014–15 รอบรองชนะเลิศ
Barcelona 5–3 Bayern Munich (สกอร์รวม)
หากพูดถึงเกมที่ Messi สามารถเอาชนะทีมของ Müller ได้อย่างสง่างาม ไม่มีแมตช์ไหนชัดไปกว่านี้อีกแล้ว
- เลกแรกที่คัมป์นู Barça ชนะ 3–0
- Messi ยิง 2 ประตู
- แอสซิสต์ให้เนย์มาร์อีก 1
- Messi ยิง 2 ประตู
- เลกสอง Bayern เปิดบ้านชนะ 3–2
- Müller ยิง 1
- Neymar ยิง 2 ประตู จากแอสซิสต์ของ Suárez
- Müller ยิง 1
รวมแล้ว Barça เอาชนะด้วยสกอร์รวม 5–3 และมุ่งหน้าสู่รอบชิง ก่อนคว้าแชมป์ UCL สมัยที่ 4 ของ Messi ด้วยการเอาชนะ Juventus
สิ่งที่ทำให้แมตช์นี้ยิ่งมีความหมายในปี 2025 คือ
- Messi
- Luis Suárez
- Jordi Alba
- Sergio Busquets
ทุกคนที่เป็นตัวหลักในเกมนั้น ปัจจุบันล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Inter Miami ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทำให้เส้นเรื่องของ “Barça ยุค MSN” กลายมาเชื่อมกับ MLS อย่างเต็มตัวในวันนี้
อันดับ 1 ฟุตบอลโลก 2014: คืนที่ Müller ปิดประตูความฝันของ Messi
ฟุตบอลโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศ
เยอรมนี 1–0 อาร์เจนตินา (ต่อเวลาพิเศษ)
นี่คือแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการดวลกันระหว่างทั้งสอง และเป็นเพียงเกมเดียวก่อน MLS Cup ที่มีถ้วยรางวัลใหญ่สุดอยู่บนเส้น
- Messi แบกความหวังของทั้งประเทศอาร์เจนตินา
- Müller เป็นหัวใจเกมรุกของเยอรมนีในระบบของ Joachim Löw
- เกมตึงเครียด 0–0 ตลอด 90 นาที
- ในช่วงต่อเวลาพิเศษ Müller มีส่วนกับการขึ้นเกมฝั่งขวา ก่อนที่ Mario Götze จะยิงประตูชัยสุดคลาสสิก
เยอรมนีคว้าแชมป์โลก ขณะที่ Messi จบฟุตบอลโลกหนนั้นด้วยความผิดหวัง แม้จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ แต่เขายังคงไร้ถ้วยแชมป์ระดับชาติในเวลานั้น
หลังจากนั้นอีกสองปี เขายังต้องเจ็บปวดกับการพลาดแชมป์โคปา อเมริกา และถึงขั้นประกาศเลิกเล่นทีมชาติชั่วคราว ก่อนจะกลับมาสร้างตำนานใหม่ในอีกหลายปีให้หลัง ด้วยแชมป์โคปา อเมริกา และฟุตบอลโลก 2022
แต่ในประวัติศาสตร์ของการเจอกับ Müller เกมที่มารากาน่าในปี 2014 ยังคงเป็นแผลลึกสุดในใจของแฟนบอลอาร์เจนตินาจำนวนมาก
แล้ว MLS Cup 2025 จะไปอยู่ตรงไหนในลิสต์นี้?
เมื่อมองภาพรวม ทั้งสองเคยเจอกันในเวที
- ฟุตบอลโลก
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- เกมอุ่นเครื่องทีมชาติ
แต่ครั้งนี้คือครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันในรอบชิงของลีกอเมริกาเหนือ ซึ่งอาจกลายเป็นเกมที่ปิดเส้นทางการเล่นระดับสูงของทั้งคู่ หรืออาจเป็นอีกหนึ่งแมตช์ประวัติศาสตร์ที่ถูกพูดถึงไม่แพ้เกมในปี 2014 ก็ได้
เพราะสำหรับผู้ชนะที่ Chase Stadium ในวันที่ 6 ธันวาคม 2025
เขาจะกลายเป็น นักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าได้ทั้งถ้วย World Cup และ MLS Cup
และไม่ว่าผลจะออกอย่างไร ประวัติศาสตร์ของคู่ Messi vs Müller ก็จะต้องมีการ “อัปเดต” อีกครั้งหลังจากคืนนั้นแน่นอน
หากคุณชอบอ่านเรื่องราวคู่ปรับระดับตำนานแบบนี้ พร้อมมุมมองเชิงลึกทั้งสถิติและบริบทฟุตบอลสมัยใหม่ ลองติดตามคอนเทนต์ฟุตบอลที่เล่าเรื่องได้สนุกและใช้อ้างอิงก่อนวิเคราะห์เกมจริงได้อัปเดตทุกแมตช์ใหญ่ ข่าวร้อน และมุมมองใหม่ของโลกฟุตบอลได้ที่ ufa800 ช่องทางข้อมูลลูกหนังที่แฟนบอลตัวจริงไม่ควรมองข้าม
