อดีต “ฟลอป” กลับมาเกิดใหม่ Antony ถูกยกเทียบโรนัลโด้ หลังคืนฟอร์มกับเรอัล เบติส
การย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดของ Antony เคยถูกมองว่าเป็นจุดจบของแนวรุกบราซิลรายนี้ในระดับท็อป แต่เวลาผ่านมาไม่นาน เรื่องราวกลับหักมุมอย่างน่าสนใจ เมื่อฟอร์มการเล่นในสีเสื้อ เรอัล เบติส ทำให้เขาถูกยกไปเทียบกับซูเปอร์สตาร์อย่าง Cristiano Ronaldo และ Neymar แถมยังกลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนเกมรุกของทีมในลาลีกาแบบเต็มตัว
ฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอง การแยกทางกับ Antony ก็สะท้อนชัดว่ากุนซือใหม่อย่าง Ruben Amorim เลือกปิดบทหนึ่งของยุคเก่า เพื่อเขียนแผนการสร้างทีมแบบใหม่ในแบบของตัวเอง การถูก “โละ” ออกจากแผนทำทีมอาจฟังดูโหดร้าย แต่สำหรับAntony มันกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการรีเซ็ตชีวิตลูกหนังครั้งใหญ่
จากดีล 88 ล้านปอนด์ สู่ป้าย “ฟลอป” ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ตอนที่แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินมหาศาลราว 88 ล้านปอนด์ดึงAntony มาจากอาแจ็กซ์ เขาถูกคาดหวังให้เป็น “ปีกขวาอนาคตไกล” ที่จะเข้ามายกระดับเกมรุกของทีม ความคุ้นเคยกับระบบของ Erik ten Hag ทำให้หลายคนเชื่อว่าเขาจะปรับตัวในพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว
แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น แม้จะมีโมเมนต์ยิงประตูสวย ๆ หรือจังหวะลากเลื้อยโชว์เทคนิคบ้างเป็นระยะ แต่เมื่อนับเป็นผลงานรวมแล้ว ตัวเลข 12 ประตูจาก 96 นัดในสีเสื้อยูไนเต็ด ถือว่าน้อยเกินไปสำหรับค่าตัวระดับนี้ ไหนจะเสียงวิจารณ์เรื่องเล่นจังหวะเดิม ๆ อ่านง่าย ขาดความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย และยังมีประเด็นนอกสนามที่รบกวนสมาธิอีก
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน สถานะของ Antony จึงค่อย ๆ เปลี่ยนจาก “ความหวังใหม่” ไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามองมากที่สุดในด้านลบ และเมื่อ Amorim เข้ามารับงาน เขาก็ตัดสินใจอย่างชัดเจนว่า ปีกบราซิลรายนี้ไม่ใช่แกนหลักในโปรเจ็กต์ใหม่ของเขา
Amorim ปิดประตู แต่อีกฝั่งของยุโรปกลับเปิดกว้าง
การย้ายไป เรอัล เบติส เริ่มต้นจากดีลยืมตัว ก่อนจะลงเอยด้วยสัญญาถาวรมูลค่าราว 22 ล้านปอนด์ ซึ่งหมายความว่าปีศาจแดงขาดทุนหนักจากดีลนี้ แต่ยูไนเต็ดมองว่าจำเป็นต้อง “เคลียร์” ทีม เพื่อเปิดทางให้ผู้เล่นใหม่ที่เข้ากับแนวทางของAmorim ได้มากกว่า
ในมุมมองของAntony เอง การย้ายออกจากอังกฤษเหมือนการออกจากสภาพแวดล้อมที่กดดันในทุกฝีก้าวไปสู่บรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าในสเปน ลาลีกามีจังหวะเกมที่แตกต่าง ความเน้นไปที่เทคนิคและการคอนโทรลบอล เปิดโอกาสให้เขาใช้จุดเด่นด้านความคล่องตัวและสกิลแบบบราซิลเลียนได้เต็มที่
ผลลัพธ์คือตัวเลขที่ชัดเจนAntony กดไปแล้ว 15 ประตูจาก 37 นัดให้เบติส ซึ่งมากกว่าที่เขายิงให้แมนฯ ยูไนเต็ดตลอดช่วงเวลาที่อังกฤษทั้งหมด นี่ยังไม่นับจังหวะสร้างสรรค์เกม การดึงแนวรับคู่แข่งให้เสียตำแหน่ง และความมั่นใจที่กลับมาเห็นได้ชัดในทุกนัด
Marc Bartra: “เขาคือส่วนผสมของ Neymar กับ Cristiano”
คำชมที่ทำให้ชื่อของ Antony กลับมาเป็นประเด็นในหน้าสื่ออีกครั้งคือการให้สัมภาษณ์ของ Marc Bartra กองหลังเรอัล เบติส ที่มองเห็นศักยภาพของเพื่อนร่วมทีมรายนี้อย่างชัดเจน
Bartra บอกว่า สไตล์ฟุตบอลที่เบติสเล่น “เหมาะกับ Antony อย่างสมบูรณ์แบบ” จนทำให้แฟนบอลได้เห็น “ตัวตนที่แท้จริง” ของเขา และยังเสริมด้วยว่า ตั้งแต่วันแรกที่คุยกัน เขาสัมผัสได้ถึงทั้งทัศนคติและคุณภาพแบบบราซิลเลียนเต็มตัว
ประโยคที่ถูกหยิบไปเป็นพาดหัวก็คือคำพูดที่ว่า
“ผมมักบอกว่าเขาเป็นส่วนผสมระหว่าง Neymar กับ Cristiano เขามีความคิดแบบ Cristiano ที่ต้องการมากขึ้นเสมอ และโฟกัสกับเกมอย่างเต็มที่”
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการเปรียบเทียบกับสองไอคอนระดับโลกแบบนี้ แฟนบอลบางส่วนอาจมองว่าเป็นคำชมเกินจริง แต่ถ้าดูในแง่ “บุคลิก” และ “ความหิวความสำเร็จ” มากกว่าระดับฝีเท้า Bartra กำลังสื่อว่าAntony ไม่ได้ยอมแพ้ง่าย ๆ ต่อเสียงวิจารณ์ และยังคงทำงานหนักเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป
ชีวิตที่แมนฯ ยูไนเต็ด: แรงกดดัน ความคาดหวัง และคำว่า “ไม่เคารพ”
แม้จะไม่เอ่ยชื่อใครตรง ๆ แต่Antony ก็เปิดใจถึงประสบการณ์ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดในมุมที่หลายคนไม่เคยรู้ เขาพูดถึง “ความไม่เคารพ” และ “ความหยาบคายทางท่าที” ในบางช่วง ที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ส่วนหนึ่งจริง ๆ ของสภาพแวดล้อมในสโมสร
เขาเล่าว่า แม้แต่คำทักทายง่าย ๆ อย่าง “สวัสดีตอนเช้า” หรือ “บ่ายดี” ก็แทบไม่ได้รับจากบางคนในทีม นั่นอาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับมนุษย์ที่ต้องอยู่ร่วมกันทุกวัน มันส่งผลต่อบรรยากาศและความรู้สึกเป็นเจ้าของไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังอยู่ใต้แสงสปอร์ตไลต์และถูกวิจารณ์ทุกการสัมผัสบอล
อย่างไรก็ตามAntony ยังยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหานอกสนามหลายเรื่องก็ส่งผลชัดเจนกับฟอร์มของเขาในสนาม เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถเล่นได้ในระดับที่แฟนบอลและสโมสรคาดหวัง ทั้ง ๆ ที่เขามีศักยภาพดีกว่านั้น เขาเล่นบอลโลกมาแล้ว เคยติดทีมชาติ และรู้ดีว่าตัวเองควรทำได้มากกว่าที่เห็นในเสื้อยูไนเต็ด
สิ่งที่น่าสนใจคือ เขาเลือกมองประสบการณ์นี้ในมุม “บทเรียน” มากกว่าจะจมอยู่กับความเจ็บปวด เขาบอกว่า ช่วงเวลาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดทำให้เขาได้มองตัวเองใหม่ ได้เข้าใจข้อจำกัดของตัวเอง และทำให้พร้อมเริ่มต้นใหม่ด้วยทัศนคติที่ต่างออกไป
เบติส: เวทีพิสูจน์ว่าปีกบราซิลรายนี้ยังไม่จบ
ที่เรอัล เบติส Antony ได้รับทั้งความไว้วางใจจากโค้ช ระบบการเล่นที่เปิดพื้นที่ให้เขาแสดงความคิดสร้างสรรค์ และห้องแต่งตัวที่เต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลายมากกว่าที่อังกฤษ เมื่อความกดดันถูกจัดระเบียบใหม่ เขาสามารถปล่อยของได้มากขึ้น
สถิติ 15 ประตูจาก 37 นัด ไม่ได้แปลว่าเขากลายเป็น “เครื่องจักรทำประตู” แบบโรนัลโด้ แต่สะท้อนอย่างน้อยสามเรื่องสำคัญ
- ความมั่นใจกลับมา – เขากล้ายิง กล้าเลี้ยง กล้าเล่นท่าเสี่ยงมากขึ้น
- บทบาทที่ชัดเจน – เขาไม่ได้ถูกขอให้เป็นทุกอย่างในเกมรุก แต่ถูกใช้ในพื้นที่และจังหวะที่เหมาะกับตัวเอง
- ลงตัวกับฟุตบอลสเปน – ลาลีกาเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเทคนิคสูงมีพื้นที่เล่นมากกว่าพรีเมียร์ลีกที่เน้นความเร็วและแรงปะทะ
นอกจากนี้ การที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง Bartra ออกมาปกป้องและยกย่องต่อหน้าสื่อ ยังบ่งบอกว่าปีกบราซิลรายนี้ไม่ได้กลับมาดีแค่ในสายตาแฟนบอล แต่ยังได้รับความเคารพจากห้องแต่งตัวใหม่ด้วย
ภาพสะท้อนกลับไปยังแมนฯ ยูไนเต็ดและ Amorim
ในมุมของแมนฯ ยูไนเต็ด การปล่อยAntony ออกไปด้วยราคาที่ขาดทุนมหาศาลคือการตัดสินใจที่ยาก แต่ก็แสดงให้เห็นว่าบอร์ดบริหารและ Amorim พร้อมเดินหน้าสร้างทีมใหม่โดยไม่ยึดติดกับดีลเก่า ๆ ที่ผิดพลาด หากนักเตะคนหนึ่งไม่เข้ากับแผนหรือไม่สามารถตอบโจทย์แท็กติกได้ การดึงเชื่อมไว้เพียงเพราะ “เคยจ่ายแพง” ย่อมยิ่งทำร้ายทีมในระยะยาวมากกว่า
การเห็นAntony กลับมาเล่นดีที่สเปน อาจทำให้แฟนบอลบางส่วนตั้งคำถามว่า ยูไนเต็ดใช้เขาให้ถูกทางหรือไม่ ระบบทีมเอื้อต่อจุดเด่นของเขาหรือเปล่า หรือแท้จริงแล้วเขาแค่ไม่เหมาะกับฟุตบอลอังกฤษ สุดท้ายคำตอบอาจเป็นการผสมกันของทุกปัจจัย ทั้งแท็กติก สภาพจิตใจ สภาพแวดล้อม และแรงกดดันจากค่าตัว
สำหรับ Ruben Amorim การตัดชื่อAntony ออกถือเป็นการส่งสัญญาณว่า “ยุคใหม่” ของยูไนเต็ดต้องเดินไปข้างหน้าโดยไม่ย้อนกลับไปติดกับดักของอดีต เขามีงานสำคัญในการสร้างตัวตนใหม่ให้ทีม ใช้ผู้เล่นที่เข้ากับปรัชญาของเขา และหวังให้ผลลัพธ์ในสนามตอบแทน
เส้นทางต่อจากนี้ของ Antony: เป้าหมายคืนทีมชาติและพิสูจน์ตัวเองในเวทียุโรป
ในวัยเพียง 25 ปี เส้นทางของAntony ยังอีกไกล เป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่การเป็นสตาร์ของเรอัล เบติส แต่ยังรวมถึงการกลับไปยึดตำแหน่งในทีมชาติบราซิลอย่างถาวร เขาเองก็พูดชัดว่า การได้เล่นฟุตบอลโลก การติดทีมชาติ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการสะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง
หากเขาสามารถรักษาฟอร์มที่ดีในสเปนต่อไป สม่ำเสมอทั้งเรื่องผลงานในสนามและวินัยนอกสนาม ชื่อของAntony อาจถูกพูดถึงในฐานะ “ตัวอย่างของนักเตะที่กลับมาจากความล้มเหลว” มากกว่า “หนึ่งในดีลล้มเหลวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” อย่างที่เคยถูกตราหน้า
และในมุมแฟนบอล เป็นการเตือนใจว่า เส้นบาง ๆ ระหว่างคำว่า “ฟลอป” กับ “ดาวดัง” อยู่ที่เวลา สภาพแวดล้อม และโอกาสที่ถูกใช้ให้ถูกทางเท่านั้น
หากคุณชอบเรื่องราวนักเตะที่กลับมาพิสูจน์ตัวเอง และอยากตามดูว่าฟอร์มร้อนแรงของAntony กับเรอัล เบติสจะไปได้ไกลแค่ไหน การติดตามสถิติ ฟอร์มล่าสุด และสถานการณ์ของทีมแต่ละสโมสรจะช่วยให้การชมฟุตบอลสนุกขึ้นมากกว่าที่เคย
และถ้าคุณอยากเปลี่ยนข้อมูลเหล่านี้ให้กลายเป็นโอกาสลุ้นผลแข่งขันแบบมีเป้าหมาย ลองใช้สถิติ ฟอร์ม และข่าวอัปเดตมาเป็นตัวช่วยตัดสินใจก่อนเลือกฝั่งลงทุนผ่าน ufabet แทงบอล
