Africa Cup of Nations 2025( AFCON 2025 )

AFCON 2025

นักเตะท็อตแน่มจะต้องขาดผู้เล่นในศึก AFCON 2025 โทมัส แฟรงค์จะต้องขาดกองกลางสองคนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

ในฤดูกาลที่โปรแกรมแน่นระดับหายใจไม่ทั่วท้อง แฟนบอลท็อตแนม ฮอตสเปอร์อาจต้องเตรียมใจรับข่าวไม่ค่อยสวยนัก เมื่อศึก Africa Cup of Nations 2025 ( AFCON 2025 ) กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม และลากยาวไปเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่ราบัต ประเทศโมร็อกโก ช่วงเวลานี้ไม่ใช่แค่ทัวร์นาเมนต์ทีมชาติธรรมดา แต่คือช่วงที่สโมสรในพรีเมียร์ลีกจำนวนมากต้อง “เสียเสาหลัก” ให้ทีมชาติไปแบบช่วยไม่ได้

ต่างจากฟุตบอลโลก 2022 ที่มีการพักเบรกกลางฤดูกาลอย่างเป็นทางการ AFCON ไม่ได้หยุดโปรแกรมลีกให้ แต่ปล่อยให้สโมสรต้องจัดการปัญหากันเองในขณะที่แมตช์ยังเดินหน้าไปตามปกติ นั่นหมายความว่า ทีมที่มีนักเตะแอฟริกันจำนวนมากจะได้รับผลกระทบเต็ม ๆ และพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มีผู้เล่นจากทวีปแอฟริกามากกว่า 40 คน กระจายอยู่ใน 17 สโมสร จึงเลี่ยงไม่ได้ที่หลายทีมจะต้องแก้เกมกันแบบระยะสั้น

สำหรับสเปอร์สของโธมัส แฟรงค์ หลายคนอาจบอกว่า “โดนเบากว่าคนอื่น” เมื่อเทียบกับบางทีมอย่าง ซันเดอร์แลนด์ ที่เสี่ยงเสียตัวหลักไปถึง 7 คน หรือวูล์ฟส์ที่อาจขาดถึง 5 คน แต่ถึงอย่างนั้น การไม่มีมิดฟิลด์สไตล์พลังงานสูงอย่าง Pape Matar Sarr และชื่อใหญ่ที่ยังเป็นทรัพย์สินของสโมสรอย่าง Yves Bissouma ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะทั้งสองคนมีผลโดยตรงต่อโครงสร้างแดนกลางของทีม

ภาพรวม AFCON 2025 และผลกระทบต่อพรีเมียร์ลีก

AFCON 2025 จะมี 24 ทีมเข้าร่วมชิงความเป็นหนึ่งของทวีป โดยทัวร์นาเมนต์เริ่มเตะก่อนคริสต์มาส และจบประมาณช่วงปลายมกราคม ซึ่งซ้อนกับช่วงที่พรีเมียร์ลีกมีโปรแกรมถี่ยิบ ทั้งบ็อกซิ่งเดย์ ปีใหม่ และยังพ่วงด้วยบอลถ้วยอย่างเอฟเอ คัพ ในรอบสาม

หลายสโมสรในอังกฤษต้องเตรียมแผนสำรองทั้งระยะสั้นและระยะกลาง เช่น การดันดาวรุ่งขึ้นชุดใหญ่ การปรับระบบการเล่นให้แน่นมากขึ้น หรือแม้กระทั่งการเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวเพื่ออุดช่องว่างชั่วคราว โชคยังดีสำหรับสเปอร์สที่ไม่ต้องเสียตัวหลักชุดใหญ่ไปพร้อมกันหลายคน แต่การหายไปของมิดฟิลด์ 2 รายในพื้นที่สำคัญ ก็เพียงพอจะเปลี่ยนโฉมหน้าการเล่นของทีมได้เลย

Pape Matar Sarr – หัวใจเชิงพลังงานในแดนกลางที่จะหายไปชั่วคราว

ชื่อแรกที่แฟนสเปอร์สต้องจับตาคือ Pape Matar Sarr มิดฟิลด์ทีมชาติเซเนกัลที่กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นฟอร์มเด่นช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล เขาเคยถูกใช้งานในบทบาทคล้ายหมายเลข 10 ที่เน้นการวิ่งเพรส ไล่บอล ชนดวล และแย่งจังหวะบอลสองมากกว่าการยืนปั้นเกมแบบเพลย์เมกเกอร์แท้ ๆ

ในระบบของโธมัส แฟรงค์ Sarr มีความสำคัญอย่างมากในแง่ “งานที่มองไม่ค่อยเห็นในไฮไลต์” เขาเป็นคนช่วยปิดช่องว่างระหว่างแดนกลางกับแนวรับ ไล่บีบจนคู่แข่งจ่ายบอลพลาด ปลดล็อกจังหวะเปลี่ยนจากเกมรับสู่เกมรุก และยังเติมขึ้นมาชนในเขตโทษได้ดี เป็นมิดฟิลด์ประเภท box-to-box ที่ทำงานหนักแบบไม่บ่น

แม้ช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน บทบาทของเขาอาจถูกลดลงบ้างเพราะการเข้ามาของ Xavi Simons ที่เพิ่มมิติด้านเทคนิคและการสร้างสรรค์เกมรุก แต่ Sarr ก็ยังเป็นหมากสำคัญในเกมที่ต้องการความดุดัน พลังการเพรส และการวิ่งไม่มีหมด ขณะที่ในทีมชาติเซเนกัล เขายิ่งมีคุณค่ามากขึ้น เพราะนี่คือยุคที่ทีมกำลังมองหาบทใหม่หลังยุคทองของ ซาดิโอ มาเน่

Sarr แม้จะได้รับบาดเจ็บจากเกมอุ่นเครื่องพ่ายบราซิลไม่นานมานี้ แต่ด้วยผลงานและความสำคัญ เขายังคงถูกคาดหมายว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมใน AFCON อย่างไม่ต้องสงสัย และถ้าเซเนกัลฟอร์มแรงจนทะลุไปถึงรอบลึก ๆ สเปอร์สก็อาจต้องอยู่โดยไม่มีเขายาวถึง 6–7 นัดเลยทีเดียว

ผลกระทบต่อแดนกลางสเปอร์สเมื่อไร้ Sarr

หากไม่มี Sarr ตัวเลือกในแดนกลางที่เหลืออยู่จะต้องรับภาระเพิ่มขึ้นทันที โดยเฉพาะการจับคู่ที่หลายคนในหมู่แฟนบอลถึงกับเรียกว่า “คู่ที่น่ากลัวในทางลบ” อย่าง Rodrigo Bentancur จับคู่ João Palhinha ซึ่งอาจมีความแข็งแกร่งเกมรับสูง แต่ขาดความคล่องตัวในการปิดพื้นที่ด้านกว้าง และอาจไม่สามารถเพรสสูงแบบดุดันได้เท่ากับตอนมี Sarr อยู่ในสนาม

จุดนี้คือโจทย์ของแฟรงค์ ว่าเขาจะปรับบาลานซ์อย่างไร ระหว่างความแน่นในเกมรับกับความสามารถในการวิ่งไล่บีบคู่แข่งตั้งแต่แดนบน การขาด Sarr อาจทำให้สเปอร์สต้องเล่นระมัดระวังมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการดันไลน์สูง และหันไปเน้นการตั้งโซนรับมากขึ้นในบางเกม

Yves Bissouma – จากฮีโร่ยุโรปสู่แข้งที่ถูกดันไปชายขอบ

ในอีกด้านหนึ่ง เรื่องราวของ Yves Bissouma แตกต่างจาก Sarr อย่างสิ้นเชิง แม้เขาจะเคยโชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์คลาสในเกมนัดชิงยูโรป้าลีก แต่หลังจากโธมัส แฟรงค์เข้ามา เขากลับถูกดันไปเป็นตัวเลือกท้าย ๆ อย่างรวดเร็ว

มีข่าวว่าเขามีปัญหาเรื่องวินัยและทัศนคติในช่วงเริ่มยุคใหม่ของผู้จัดการทีม จนสโมสรพยายามขายเขาออกในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถหาทีมที่พร้อมจ่ายค่าตัวที่เหมาะสมได้ สุดท้ายเขาอยู่ต่อ แต่ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานถึงสองครั้ง และยังไม่ได้ลงสนามแม้แต่นาทีเดียวในฤดูกาลปัจจุบัน

ล่าสุด Bissouma เจ็บเอ็นข้อเท้าจากอาการบาดเจ็บในเดือนตุลาคม ทำให้สถานะการไปเล่น AFCON กับทีมชาติมาลียังเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ถึงอย่างนั้น จากมุมมองของสเปอร์ส การหายไปของเขาในระหว่างทัวร์นาเมนต์ไม่ได้สร้างผลกระทบเชิงแท็คติกมากนัก เพราะทีมแทบไม่ได้ใช้งานเขาอยู่แล้ว

สโมสรเองก็มองเป้าหมายไปที่การ “เคลียร์อนาคต” ของ Bissouma ในตลาดเดือนมกราคมมากกว่า ถ้ามีข้อเสนอที่เหมาะสมก็พร้อมปล่อย เพื่อเปิดทางให้ตัวเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ระบบของแฟรงค์มากกว่า

โปรแกรมโหดช่วง AFCON – เกมไหนที่สเปอร์สต้องลุยแบบไร้ตัวหลัก

ระหว่างที่ AFCON กำลังฟาดแข้งกันที่โมร็อกโก สเปอร์สเองก็ไม่ได้มีเวลานั่งดูสบาย ๆ เพราะโปรแกรมในลีกและบอลถ้วยยังเดินต่อแบบแน่น ๆ โดยช่วงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมีดังนี้

  • 28 ธันวาคม: คริสตัล พาเลซ พบ สเปอร์ส – พรีเมียร์ลีก
  • 1 มกราคม: เบรนท์ฟอร์ด พบ สเปอร์ส – พรีเมียร์ลีก
  • 4 มกราคม: สเปอร์ส พบ ซันเดอร์แลนด์ – พรีเมียร์ลีก
  • 7 มกราคม: บอร์นมัธ พบ สเปอร์ส – พรีเมียร์ลีก
  • 10/11 มกราคม: เอฟเอ คัพ รอบสาม
  • 17 มกราคม: สเปอร์ส พบ เวสต์แฮม – พรีเมียร์ลีก

ถ้าเซเนกัลของ Sarr เดินหน้าทะลุรอบลึก โอกาสที่เขาจะพลาดเกมเหล่านี้แทบทั้งหมดมีสูงมาก ซึ่งจะทำให้แดนกลางสเปอร์สต้องใช้ชุดสำรองหรือปรับระบบให้ “เซฟพลัง” มากขึ้น การโรเตชันจะกลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องระวังไม่ให้ผู้เล่นหลักที่เหลืออยู่กรอบจนฟอร์มรูด

เมื่อคู่แข่งก็เจ็บเหมือนกัน – สเปอร์สได้เปรียบหรือไม่?

แม้แฟนสเปอร์สจะกังวลเรื่องการเสีย Sarr กับ Bissouma แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า หลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกเจอปัญหาไม่ต่างกัน บางทีมอาจหนักกว่าเสียอีก เช่น วูล์ฟส์ที่เสี่ยงพลาดใช้งานแข้งแอฟริกันหลายรายในช่วงเวลาเดียวกัน หรือสโมสรอย่างซันเดอร์แลนด์ที่อาจขาดผู้เล่นถึง 7 คน

ในแง่นี้ สามารถมองได้ว่า สเปอร์สยังถือว่า “โดนเบา” กว่าหลายสโมสร เพราะจำนวนผู้เล่นที่หายไปมีเพียงสองราย และหนึ่งในนั้นไม่ได้อยู่ในแผนใช้งานหลักอยู่แล้ว นั่นทำให้โฟกัสจริง ๆ อยู่ที่การรับมือกับการไม่มี Sarr มากกว่าอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลระดับนี้มักตัดสินกันที่รายละเอียดเล็ก ๆ การขาดนักเตะประเภท “วิ่งไม่มีหมด” อย่าง Sarr ในช่วงโปรแกรมถี่ ๆ อาจทำให้ทีมเสียจังหวะเพรส เสียเทมโปในแดนกลาง และเสียความดุดันในการแย่งบอลคืน ซึ่งเป็นหัวใจของสไตล์การเล่นที่แฟรงค์อยากสร้าง

บทสรุป – ช่วงทดสอบความลึกของทีม และวิสัยทัศน์ของโค้ช

AFCON 2025 จึงไม่ใช่แค่ทัวร์นาเมนต์ทีมชาติ แต่เป็น “บททดสอบเชิงลึก” ว่าสเปอร์สภายใต้โธมัส แฟรงค์ มีขุมกำลังและระบบที่ยืดหยุ่นพอหรือไม่ การต้องขาด Sarr ในช่วงสำคัญจะทำให้เราได้เห็นว่า โค้ชชาวเดนมาร์กจะปรับวิธีการเล่นอย่างไร จะดันใครขึ้นมาเป็นตัวชดเชยในแดนกลาง หรือจะเลือกเปลี่ยนรูปแบบเพรสซิ่งไปเลย

ส่วน Bissouma นั้น เรื่องราวอาจไม่ใช่เรื่องแท็คติกในสนามเท่านั้น แต่เป็นสัญญาณว่าทีมพร้อมจะก้าวต่อไปโดยไม่ยึดติดกับอดีต และพร้อมปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับสไตล์การเล่นยุคใหม่อย่างแท้จริง

ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ช่วงปลายปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่แฟนสเปอร์สได้เห็น “ตัวจริง” ของทีม ว่าพร้อมจะลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์หรือมากกว่านั้นได้แค่ไหน ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเลย

ถ้าคุณชอบอ่านเกม ลองวัดมุมมองของตัวเองในโลกของ ยูฟ่าเบท แทงบอล ดูบ้างก็ได้นะ เพราะยิ่งคุณเข้าใจโปรแกรม ทีมขาดใคร แท็คติกเปลี่ยนยังไง ทุกบิลใน ยูฟ่าเบท แทงบอล ก็ยิ่งมีโอกาสเปลี่ยนจากแค่เชียร์ทีมรัก ไปเป็นจังหวะทำกำไรที่ลุ้นมันยิ่งขึ้น