คำพูดเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เผยข่าวดีเชลซีลุ้นแชมป์ ufa365

คำพูดเป๊ป

คำพูดเป๊ป กวาร์ดิโอลา ส่งสัญญาณเชลซีลุ้นแชมป์จริง หลังแมนซิตี้รอดดราม่าเฉือนฟูแลม 5-4 ufa365

ค่ำคืนที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเฉือนฟูแลมแบบหายใจไม่ทั่วท้อง 5-4 ไม่ได้ทิ้งไว้แค่สกอร์สุดบ้าคลั่งเท่านั้น แต่ยังทิ้ง ข้อความสำคัญ”จาก คำพูดเป๊ป กวาร์ดิโอลา เกี่ยวกับการแข่งขันลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดถึงอาร์เซนอล และ “เชลซีของเอ็นโซ่ มาเรสก้า” ว่ากำลังไล่กดดันกันอย่างสูสีมากกว่าที่หลายคนคิด

หลังจบเกมที่คราเวน ค็อตเทจ ซิตี้นำห่างถึง 5-1 ในนาทีที่ 54 ก่อนจะโดนฟูแลมยิงไล่มารัว ๆ อีกสามลูกในช่วงเวลาเพียง 21 นาที ทำให้ช่วงท้ายเกมเต็มไปด้วยความกังวล ทั้งในสนามและข้างสนาม เป๊ปเองก็ยอมรับว่าแมตช์นี้ “หวิว” กว่าที่ควรจะเป็น แต่ในขณะเดียวกัน ผลชนะก็ช่วยให้ทีมของเขาขยับเข้าใกล้อาร์เซนอล เหลือแค่สองแต้ม และยังทำให้คำพูดของเขาเรื่องการไล่ล่าจ่าฝูงมีน้ำหนักมากขึ้นด้วย

ช่องว่างระหว่างซิตี้ – อาร์เซนอล – เชลซี ที่บางลงเรื่อย ๆ

ด้วยผลชนะเหนือฟูแลม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ตอนนี้ตามหลังอาร์เซนอลอยู่สองคะแนน ขณะที่อาร์เซนอลมีโอกาสขยับหนีไปห้าคะแนนอีกครั้ง หากเปิดบ้านชนะเบรนท์ฟอร์ดได้ในคืนวันพุธ ฝั่งเชลซีเองก็ยังอยู่ในภาพลุ้นแชมป์แบบเงียบ ๆ หากบุกชนะลีดส์ ยูไนเต็ดได้ พวกเขาจะกลับมาหายใจรดต้นคอแมนซิตี้ห่างแค่หนึ่งแต้มเท่านั้น

พูดง่าย ๆ คือ ตอนนี้ภาพบนหัวตารางเริ่มชัดแล้วว่า ไม่ได้มีแค่ “สองม้า” อย่างอาร์เซนอลกับซิตี้ แต่เชลซีกำลังไต่ขึ้นมาเป็นม้าตัวที่สาม ที่ทั้งเล่นสนุก ดูดี และมีศักยภาพจะอยู่ในเส้นทางไปจนโค้งสุดท้ายของซีซัน หากรักษามาตรฐานได้ต่อเนื่อง

เป๊ปยอมรับ: อาร์เซนอลยังโหด และการไล่ทันไม่ใช่เรื่องง่าย

เมื่อถูกถามถึงการลุ้นแชมป์ เป๊ปไม่ลืมยกเครดิตให้อาร์เซนอลแบบชัดเจน เขาบอกตรง ๆ ว่า “อาร์เซนอลทั้งแข็งแกร่งและแน่นมาก” และยอมรับว่าถ้าซิตี้พลาดหลุดแต้มเมื่อไร งานลุ้นแชมป์จะยากขึ้นทันที

เขาอธิบายว่าหนึ่งในบทเรียนที่ได้จากการทำทีมในพรีเมียร์ลีกมานาน คือ ฤดูกาลนี้ “ยาวมาก” และสิ่งสำคัญไม่ใช่การนำตารางในเดือนธันวาคม แต่คือการ “เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ” ในระหว่างซีซัน ทีมที่คว้าแชมป์ได้ในท้ายที่สุด มักไม่ใช่ทีมที่ออกตัวแรงที่สุด แต่คือทีมที่ค่อย ๆ เก่งขึ้น คงเส้นคงวาขึ้น รับมือแรงกดดันได้ดีขึ้นเมื่อเดือนต่าง ๆ เดินไป

เป๊ปยังย้ำว่า เขาคือกุนซืออาวุโสที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ และผ่านประสบการณ์ลุ้นแชมป์มาหลายครั้ง หลายฤดูกาล ซิตี้เคยอยู่ในสถานการณ์ตามหลังคู่แข่งในเดือนธันวาคม มกราคม หรือกุมภาพันธ์ แต่สุดท้ายก็เร่งเครื่องกลับมาคว้าแชมป์ได้ เพราะทีม “โตขึ้น” ในช่วงเวลาสำคัญ ไม่ใช่แค่บินสูงในช่วงต้นฤดูกาลแล้วแผ่ว

เมื่อเป๊ปพูดถึงเชลซี  ไม่ใช่แค่คำชมแบบผ่าน ๆ

สิ่งที่ทำให้บทสัมภาษณ์หลังเกมของเป๊ปน่าสนใจเป็นพิเศษคือ การที่เขาเอ่ยถึงเชลซีของเอ็นโซ่ มาเรสก้าแบบเจาะจง เขาบอกว่า “เชลซีทำให้ผมประทับใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน ภายใต้การคุมทีมของเอ็นโซ่”

นี่ไม่ใช่คำพูดที่เป๊ปจะโยนให้ใครง่าย ๆ เพราะสไตล์ของเขามักชมทีมคู่แข่งบนพื้นฐานของ “โครงสร้าง” และ “รายละเอียดในเกม” หมายความว่า เชลซีไม่ใช่แค่ชนะหรือเสมอทีมใหญ่ แต่รูปแบบการเล่นที่แสดงออกมา ทำให้กุนซืออย่างเขาเห็นเค้าโครงของทีมลุ้นแชมป์ในอนาคต

เกมที่เสมอกับอาร์เซนอล 1-1 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ คือจุดเปลี่ยนสำคัญของภาพลักษณ์เชลซีใหม่ พวกเขาเล่นได้ดีกว่าในช่วงที่ยังมี 11 คนเท่ากัน คุมเกม สร้างโอกาส และถ้าไม่มีใบแดงของมอยเซส ไกเซโด้ หลายคนเชื่อว่าเกมนั้นอาจเป็นสามคะแนนเต็มของสิงห์บลูส์ด้วยซ้ำ ต่อให้เหลือ 10 คน เชลซีก็ยังเล่นด้วยโครงสร้างที่ชัด ไม่ได้แตกกระจุยหรือพังยับเมื่อเสียเปรียบตัวผู้เล่น

สำหรับเป๊ป การเห็นทีมหนุ่มอย่างเชลซี “ไม่แตก” ในเกมใหญ่ และยังคงระเบียบในเกมรับ เกมรุก และวิธีการยืนตำแหน่ง นั่นคือสัญญาณของทีมที่กำลังจะกลายเป็นคู่แข่งในเส้นทางลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง

มาเรสก้า: ขอรอถึงกุมภาพันธ์ก่อนคุยเรื่องคำว่า ‘ลุ้นแชมป์’

ฝั่งเอ็นโซ่ มาเรสก้าเองกลับเลือกใช้โทนเสียงที่ระมัดระวังมากกว่า เขาชี้ชัดว่า “ตอนนี้ยังเร็วเกินไป” ที่จะพูดถึงคำว่า “ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก” อย่างเต็มปาก เขาอธิบายว่า ถ้าเชลซียังยืนอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันได้ในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ถึงเวลานั้นค่อยพูดว่าทีมเป็น “แคนดิเดตแชมป์” ก็ยังไม่สาย

เหตุผลที่เขาเน้นเวลาช่วงสองเดือนข้างหน้า เป็นเพราะตารางแข่งของเชลซีหนักมากในเดือนธันวาคมและมกราคม มีโปรแกรมรวมกันถึง 16 นัดในสองเดือน ซึ่งถือว่าโหดสุด ๆ ทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจ ผู้เล่นต้องรับมือทั้งการเดินทาง การฟื้นฟูสภาพร่างกาย และความกดดันจากผลการแข่งขันที่อาจเปลี่ยนหน้าตารางในเวลาไม่กี่วัน

มาเรสก้ารู้ดีว่า ทีมหนุ่มแบบเชลซี จุดแข็งคือพลังกายและความกระหาย แต่จุดที่ต้องระวังคือความสม่ำเสมอและสมาธิ ถ้าผ่านสองเดือนมรณะนี้ไปได้โดยไม่หลุดกราฟฟอร์มไปไกล เชลซีจะไม่ใช่แค่ทีม “โหดในสายตานักวิเคราะห์” แต่จะกลายเป็นทีมที่ตัวเลขบนตารางคะแนนยืนยันชัดว่าคือผู้ท้าชิงถ้วยแชมป์จริง ๆ

ดราม่าที่คราเวน ค็อตเทจ: ซิตี้ยิง 5 แต่เกือบไม่ชนะ

ย้อนกลับมาที่ต้นเรื่องของค่ำคืนนี้ เกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับฟูแลม สกอร์ 5-4 บอกเราอย่างน้อยสองเรื่องพร้อมกัน เรื่องแรกคือ ซิตี้ยังคงมีพลังเกมรุกมหาศาล ยิงใครก็ได้ในลีกนี้หากเข้าฝัก แต่เรื่องที่สองคือ เกมรับของพวกเขาเองยังมีอาการ “เปราะบาง” ให้เห็น

การนำห่างถึง 5-1 แล้วปล่อยให้คู่แข่งยิงคืนถึงสามลูกในเวลาสั้น ๆ ไม่ใช่ภาพที่ทีมแชมป์คุ้นชินกันมากนัก มันสะท้อนให้เห็นว่า แม้ทีมจะมีคุณภาพและประสบการณ์ลุ้นแชมป์ แต่ก็ยังต้อง “เติบโต” อีกในแง่การคุมจังหวะและการปิดเกมให้แน่นอนกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม เป๊ปเลือกมองด้านบวกมากกว่า เขามองว่าการเดินออกจากสนามพร้อมสามแต้มในเกมที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน จะช่วยเสริมเมนทัลของทีมให้แข็งขึ้น และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับช่วงโค้งต่อ ๆ ไปของฤดูกาล

ศึกสามกุนซือ: เป๊ป – อาร์เตต้า – มาเรสก้า

เมื่อพูดถึงการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ ชื่อของสามกุนซือที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น เป๊ป กวาร์ดิโอลา, มิเกล อาร์เตต้า และเอ็นโซ่ มาเรสก้า ทั้งสามคนมีสายสัมพันธ์ทางฟุตบอลที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าสนใจ

  • เป๊ป คือกุนซือรุ่นพี่ ผู้สร้างมาตรฐานใหม่ของฟุตบอลเกมรุกและการครองบอล
  • อาร์เตต้า คือศิษย์เก่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยเป็นผู้ช่วยของเป๊ป ก่อนจะย้ายไปสร้างทีมของตัวเองที่อาร์เซนอล
  • มาเรสก้า คืออีกคนที่เคยผ่านระบบของซิตี้ ทั้งในฐานะโค้ชเยาวชนและกุนซือทีมสำรอง ได้เรียนรู้แนวคิดการเล่นที่เน้นการครองบอล การขึ้นเกมจากแนวหลัง และการสร้างโครงสร้างทีมให้แน่น

การที่เป๊ปออกมาชื่นชมเชลซีจึงไม่ใช่แค่คำชมส่วนตัวต่อมาเรสก้า แต่ยังสะท้อนว่า “ฟุตบอลสไตล์ซิตี้” กำลังแตกแขนงออกไปสู่คู่แข่งโดยตรง ทั้งอาร์เซนอลและเชลซี ที่ต่างหยิบแนวคิดเดียวกันไปปรับใช้ในแบบของตัวเอง

หากฤดูกาลนี้จบลงด้วยการที่ทั้งสามทีมต่อสู้กันจนถึงโค้งสุดท้าย นี่จะเป็นหนึ่งในปีที่น่าสนใจที่สุดของพรีเมียร์ลีกยุคใหม่ เพราะมันไม่ใช่แค่การแย่งถ้วยระหว่างสโมสร แต่คือการ “ปะทะกันของปรัชญาฟุตบอล” จากรากเดียวกันแต่แตกกิ่งต่างกัน

เส้นทางต่อจากนี้: แต้มเดียวอาจตัดสินทุกอย่าง

เมื่อพรีเมียร์ลีกเดินเข้าช่วงกลางซีซัน แต้มทุกแต้มเริ่มมีความหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ การพลาดเสมอในเกมที่ควรชนะ หรือการหลุดแพ้แบบไม่จำเป็น อาจเป็นจุดหักเหของเส้นทางลุ้นแชมป์ได้ทันที

  • อาร์เซนอล ต้องพิสูจน์ว่าความสม่ำเสมอที่แสดงออกมาในช่วงแรก สามารถรักษาไว้ได้เมื่อโปรแกรมถี่ขึ้นและความกดดันมากขึ้น
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องพิสูจน์อีกครั้งว่า “เครื่องไล่ล่า” ของเป๊ปยังทำงานได้ดีในระยะยาว สามารถกดดันคู่แข่งจนหลุดฟอร์มได้เหมือนในหลายซีซันที่ผ่านมา
  • เชลซี ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า ผลงานยอดเยี่ยมในเกมใหญ่ไม่ได้เป็นแค่ “ช่วงฟอร์มดีชั่วคราว” แต่เป็นจุดเริ่มต้นของทีมที่เติบโตและพร้อมอยู่ในวงสนทนาลุ้นแชมป์จริง ๆ

คำพูดของเป๊ปที่บอกว่า “ทีมที่ได้แชมป์คือต้องเติบโตขึ้นระหว่างฤดูกาล” จึงไม่ได้เป็นเพียงการบอกกับลูกทีมของเขาเอง แต่เหมือนเป็นเสียงสะท้อนถึงทั้งอาร์เซนอลและเชลซีด้วยว่า ใครรักษาการเติบโตนี้ไว้ได้ยาวที่สุด คน ๆ นั้นจะได้ยืนบนจุดสูงสุดตอนเดือนพฤษภาคม

ถ้าคุณชอบตามเกมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบลึกกว่าข่าวทั่วไป ทั้งมุมมองแท็กติก ฟอร์มทีมใหญ่ และมุมวิเคราะห์ก่อนเตะ–หลังเตะ ลองเติมอรรถรสให้การเชียร์บอลของคุณ ด้วยสถิติและข้อมูลครบเครื่องสไตล์คอบอลตัวจริงกับ ufa365 แล้วทุกคืนบอลจะไม่ได้มีแค่ผลสกอร์ แต่เต็มไปด้วยโอกาสและมุมมองใหม่ ๆ ให้คุณได้ลุ้นมากกว่าเดิม