เอ็ดดี้ ฮาว ยืนข้าง นิค โป๊ป

เอ็ดดี้ ฮาว

เอ็ดดี้ ฮาว ยืนข้าง นิค โป๊ป หลังผิดพลาดเกมพ่ายมาร์กเซย  ภาพสะท้อนปัญหา “ทิ้งนำ” ของนิวคาสเซิลในถ้วยยุโรป

เอ็ดดี้ ฮาว ยืนข้าง นิค โป๊ป การบุกไปเยือนสนามสุดเดือดอย่างสต๊าด เวโลโดรม ของโอลิมปิก มาร์กเซย ควรจะเป็นค่ำคืนที่นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ใช้ยืนยันตัวเองในเวทีแชมเปียนส์ลีก แต่กลับกลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนบอลต้องกลับบ้านพร้อมความรู้สึกคาใจ เมื่อทีม “ทิ้งความได้เปรียบ” อีกครั้ง และแพ้ไป 2-1 ทั้งที่ออกนำก่อนเหมือนเดิม

จุดที่ถูกจับตามองมากที่สุดไม่ใช่แค่สกอร์บนหน้าป้ายไฟ แต่คือจังหวะ นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ทำพลาดในช่วงต้นครึ่งหลัง จนเปิดทางให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ตีเสมอ และพลิกโมเมนตัมของเกมไปเข้าทางเจ้าบ้านเต็ม ๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ “ท่าทีของเอ็ดดี้ ฮาว” หลังจบเกม ที่เลือกจะออกมาปกป้องลูกทีมอย่างโป๊ปแทนที่จะโยนความผิดให้คนเดียว นั่นสะท้อนให้เห็นทั้งมุมมองการคุมทีมในระยะยาว ปัญหาที่สั่งสมในเกมเยือน และความเปราะบางของนิวคาสเซิลในช่วงเวลาสำคัญของฤดูกาล

รูปเกมที่เวโลโดรม  ออกตัวดี แต่ยืนระยะไม่ได้อีกครั้ง

เปิดเกมที่สนามเวโลโดรม บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดันและเสียงเชียร์กระหึ่ม แต่ นิวคาสเซิลเริ่มเกมได้ยอดเยี่ยม พวกเขาคุมจังหวะได้ดีและตอบสนองต่อความดุดันของมาร์กเซยได้อย่างนิ่งแน่น

ประตูออกนำของ Harvey Barnes ยิ่งทำให้รูปเกมเข้าทางทีมเยือน พวกเขามีพื้นที่เล่นมากขึ้น เล่นสวนกลับได้อันตราย และสร้างโอกาสลุ้นประตูเพิ่มเติมหลายครั้ง จนแฟนสาลิกาดงเริ่มมีความหวังว่านี่อาจเป็น “เกมแชมเปียนส์ลีกนอกบ้านที่สมบูรณ์แบบ”

แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มครึ่งหลังได้ไม่ถึงนาที…

จังหวะพลาดของนิค โป๊ป วินาทีที่เปลี่ยนทุกอย่าง

ต้นครึ่งหลัง มาร์กเซยบุกใส่ทันทีเพื่อหวังตีเสมอ และในจังหวะที่บอลทะลุแนวรับ นิค โป๊ป ตัดสินใจ “ออกมาเร็ว” จากเส้นประตูเพื่อปิดมุมและตัดบอลก่อน โอบาเมยอง

แต่แทนที่จะเคลียร์บอลหรืออ่านจังหวะได้ขาด เขากลับถูกโอบาเมยองเอาชนะในจังหวะสปีดและการควบคุมบอล ก่อนที่หัวหอกวัย 36 ปี จะยิงผ่านอย่างเยือกเย็นกลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1

นี่คือจังหวะที่ทั้งนักเตะและแฟนนิวคาสเซิลรู้สึกได้ทันทีว่า “เกมกำลังจะเปลี่ยน”

จากเกมที่ควรจะค่อย ๆ คุมจังหวะไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่า นิวคาสเซิลถูกดันให้อยู่ในสถานะรับแรงกระแทกทางจิตใจ มาร์กเซยได้พลังจากเสียงเชียร์ในบ้าน ส่วนฝั่งทีมเยือนเริ่มเล่นผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อยขึ้น

ไม่นานหลังจากนั้น โอบาเมยองก็มาเบิ้ลอีกลูก กลายเป็น 2-1 และนั่นคือประตูที่ทำให้เกมจบลง แม้เวลาจะยังเหลือ แต่โมเมนตัมและอารมณ์ของเกมหันไปทางเจ้าบ้านเรียบร้อยแล้ว

เอ็ดดี้ ฮาว หลังเกม ยอมรับความผิดหวัง แต่ไม่โยนผิดให้ใครคนเดียว

หลังจบเกม นักข่าวย่อมถามถึงจังหวะของนิค โป๊ป และบรรยากาศในทีมที่ “นำแล้วโดนแซง” ซ้ำ ๆ ในเกมเยือนถ้วยยุโรปและพรีเมียร์ลีก

ฮาวยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า

  • ทีมเล่นได้ดีมากในครึ่งแรก
  • แต่ช่วง 10 นาทีแรกของครึ่งหลังคือจุดที่ทุกอย่างพัง
  • ประตูที่เสียเร็วหลังเริ่มครึ่งหลังทำให้ทีม “ถูกเขย่า” และตอบสนองได้ไม่ดี

เขาใช้คำว่า “เจ็บปวดเป็นพิเศษ” เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมสร้างสถานการณ์ที่ดี แล้วกลับทิ้งมันไปเอง โดยเฉพาะการออกนำก่อนในเกมเยือนแล้วโดนพลิกกลับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามเฉพาะจุดถึงนิค โป๊ป ฮาวเลือกใช้โทนเสียงปกป้องอย่างชัดเจน เขาไม่ได้ออกมาด่าหรือวิจารณ์ฟอร์มส่วนตัว แต่กลับบอกว่า

“เราต้องมองทุกอย่างอย่างมีสมดุล เขาเคยเซฟเรามาหลายครั้ง เพิ่งจะโชว์ฟอร์มดีมากกับแมนเชสเตอร์ซิตี้เมื่อสองวันก่อน นี่คือชีวิตของผู้รักษาประตู คุณอาจถูกจดจำจากจังหวะผิดพลาดหนึ่งครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้าเซฟมาเป็นสิบครั้ง”

นี่คือสิ่งที่สะท้อนมุมมองสำคัญของฮาว – เขาเลือก “มองภาพรวมทั้งฤดูกาล” มากกว่าซูมไปที่ความผิดพลาดเกมเดียว

จากเบรนท์ฟอร์ด, เวสต์แฮม สู่มาร์กเซย  โรคเดิม “นำแล้วทิ้ง” ของสาลิกาดง

เกมนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นิวคาสเซิลออกนำก่อนในเกมเยือนแล้วจบด้วยความพ่ายแพ้

  • เกมเยือนเบรนท์ฟอร์ด: นำ 1-0 ก่อนจบด้วยการแพ้ 3-1
  • เกมเยือนเวสต์แฮม: ภาพซ้ำเดิม นำก่อนแต่โดนยิงคืนและพลิกแซง
  • เกมเยือนมาร์กเซยในแชมเปียนส์ลีก: นำ 1-0 เช่นกัน ก่อนแพ้ 2-1

นี่ทำให้แฟน ๆ เริ่มตั้งคำถามว่า ปัญหาใหญ่ของทีมตอนนี้คือ

  • สมาธิในช่วงต้นครึ่งหลัง
  • การจัดการโมเมนตัมเมื่อออกนำ
  • หรือแผนการเล่นที่ไม่ยืดหยุ่นพอเวลาโดนกดดันกลับ

ฮาวมองว่าทีม “ทำหลายอย่างถูกต้อง” ในเกมนี้ ทั้งในแง่ความดุดัน โอกาสยิง (ถึง 20 ครั้ง) และการสร้างเกมรุก แต่เขาก็ยอมรับว่าการเสียสองประตูในรูปแบบที่ “ป้องกันได้” เป็นจุดที่ต้องแก้ไขโดยด่วน

การนำแล้วแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเกมเยือน ไม่ใช่แค่ปัญหาทางแท็คติก แต่คือปัญหาทางจิตวิทยาที่ทีมต้องก้าวข้ามให้ได้ หากต้องการยืนระยะทั้งในลีกและยุโรป

นิค โป๊ป vs อารอน แรมส์เดล คำถามที่เริ่มหนักขึ้นทุกสัปดาห์

อีกประเด็นที่สื่ออังกฤษหยิบยกขึ้นมาคือสถานการณ์ในตำแหน่งผู้รักษาประตู

นิค โป๊ป ลงเล่นในลีกและบอลยุโรปเป็นหลัก ขณะที่ อารอน แรมส์เดล ที่เพิ่งย้ายมาช่วงซัมเมอร์กลับต้องนั่งเป็นสำรองส่วนใหญ่ ได้โอกาสลงเพียงในบอลถ้วยอย่างคาราบาวคัพสองนัด

ฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาของโป๊ปในฤดูกาลนี้ บวกกับจังหวะผิดพลาดเกมล่าสุด ทำให้เสียงเรียกร้องให้ลองใช้แรมส์เดลในเกมลีกดังขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ท่าทีของฮาวชัดเจน – เขายังยืนยันจะ “หนุนหลังโป๊ป”

เขามองว่าโป๊ปยังเป็นผู้รักษาประตูที่มีส่วนช่วยทีมอย่างมหาศาล และการตัดสินใจเปลี่ยนมือหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเพราะความผิดพลาดหนึ่งหรือสองนัดเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ทีมต้องการความมั่นคงทางจิตใจจากขุมกำลังหลัก

อย่างไรก็ตาม ความกดดันจากสื่อและแฟนบอลอาจทำให้ตำแหน่งนี้กลายเป็นประเด็นต่อเนื่อง หากโป๊ปมีข้อผิดพลาดอีกในเกมสำคัญต่อจากนี้

ภาพรวมฟอร์มเกมเยือน ทำไมเล่นดีแต่กลับไม่ชนะ?

หากมองตัวเลขเพียงอย่างเดียว นิวคาสเซิลน่าจะได้อะไรมากกว่าความพ่ายแพ้ในเกมนี้

  • โอกาสยิงรวมถึง 20 ครั้ง
  • สร้างโอกาสลุ้นประตูได้จริงหลายจังหวะ
  • เกมรุกดูอันตรายและมีจังหวะเข้าทำที่หลากหลายกว่าหลายเกมเยือนที่ผ่านมา

ฮาวเองยังบอกว่า นี่เป็นหนึ่งในฟอร์มเยือนที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้ เพียงแต่

  • การตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบ
  • การป้องกันช่วงเปลี่ยนผ่าน (transition) ยังมีรูรั่ว
  • และทีมตอบสนองต่อ “จังหวะเสียประตู” ได้ไม่ดีพอ

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นคนสองคน แต่ต้องมาจากการปรับ mindset ทั้งทีม

งานชิ้นต่อไป เกมเยือนเอฟเวอร์ตันที่จะตอบคำถามสำคัญ

หลังความพ่ายแพ้ในฝรั่งเศส นิวคาสเซิลไม่มีเวลาให้ถอยไปตั้งหลักนานนัก เพราะเกมต่อไปคือการบุกเยือน เอฟเวอร์ตัน ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งพวกเขายัง “ไม่เคยชนะเกมเยือนลีกได้เลยในฤดูกาลนี้”

เกมนี้จึงมีนัยสำคัญหลายชั้น

  • เป็นบททดสอบต่อเนื่องของนิค โป๊ป ว่าจะตอบสนองอย่างไรหลังความผิดพลาด
  • เป็นเกมวัดว่าทีมจะยัง “ทิ้งความได้เปรียบ” เหมือนเดิมหรือไม่ หากออกนำก่อน
  • เป็นโอกาสที่ฮาวจะพิสูจน์ว่า การสนับสนุนลูกทีม ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู แต่สะท้อนผ่านฟอร์มการตอบกลับในสนามได้จริง

หากนิวคาสเซิลยังคงหลุดในจังหวะสำคัญ และเสียแต้มจากเกมที่ควรทำได้ดีกว่านี้ต่อเนื่อง เสียงวิจารณ์อาจไม่ได้พุ่งเป้าไปแค่โป๊ป แต่จะเริ่มมองไปที่ระบบและการจัดการของทีมทั้งชุดด้วย

บทเรียนจากค่ำคืนที่เวโลโดรม และความหมายต่อฤดูกาลของสาลิกาดง

ค่ำคืนที่มาร์กเซยคือภาพสะท้อนหลายอย่างของนิวคาสเซิลในปีนี้

  • พวกเขามีศักยภาพเพียงพอจะสู้กับทีมใหญ่ในยุโรป
  • พวกเขามีเกมรุกที่สร้างโอกาสได้จริง
  • แต่ขณะเดียวกันก็มีความเปราะบางในช่วงสำคัญของเกม
  • และยังไม่สามารถจัดการกับโมเมนตัมหลังมีเหตุการณ์ “ช็อก” อย่างการเสียประตูจากความผิดพลาดส่วนตัวได้ดีพอ

ท่าทีของเอ็ดดี้ ฮาว ที่ออกมายืนข้างนิค โป๊ป อาจถูกตีความได้สองทาง

  • ในด้านบวก: เขาคือโค้ชที่พร้อมปกป้องลูกทีม เชื่อมั่นในคนที่เคยช่วยทีมไว้ และไม่ยอมให้ใครเป็น “แพะรับบาป” อยู่คนเดียว
  • ในอีกด้านหนึ่ง: เขาก็ต้องตอบคำถามให้ได้เช่นกันว่า จะใช้ความเชื่อมั่นนี้เปลี่ยนเป็น “ผลงานในสนาม” ได้อย่างไร โดยเฉพาะเกมเยือนที่ยังเป็นจุดอ่อนชัดเจน

สำหรับแฟนนิวคาสเซิล เกมที่เวโลโดรมอาจเป็นเพียงหนึ่งค่ำคืนที่น่าผิดหวัง แต่สำหรับทีมและโค้ช นี่ควรเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่บอกชัดว่า หากไม่แก้ไขโรค “นำแล้วทิ้ง” ให้เร็วที่สุด ฤดูกาลนี้อาจจบลงแบบขมขื่นกว่าที่คิด

ถ้าอยากติดตามเกมใหญ่ระดับแชมเปียนส์ลีก พร้อมดูราคาและสถิติคู่ไปกับการวิเคราะห์เกมแบบสด ๆ ลองใช้ คลิกเข้าสู่ ufabet ทางเข้า คุณก็สามารถลุ้นทุกจังหวะสำคัญของนิวคาสเซิลและทีมดังยุโรป พร้อมรับประสบการณ์เชียร์บอลที่เข้มข้นกว่าการนั่งดูหน้าจอแบบเดิม ๆ