เออร์ลิง ฮาลันด์ กำลังร้อนแรงกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ และเพื่อนร่วมทีมของสตาร์พรีเมียร์ลีกคนหนึ่งได้เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนอย่างไร
เออร์ลิง ฮาลันด์ คือกองหน้าที่แฟนบอลทั่วโลกจดจำจากภาพลักษณ์ “เครื่องจักรสังหารประตู” แห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัวเลขก็ยืนยันทุกอย่างให้เห็นชัด ตั้งแต่ย้ายมาในปี 2022 เขาทำลายสถิติพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกด้วยจำนวนประตูที่ไม่มีใครเคยคิดว่าจะทำได้บนเกาะอังกฤษ แถมยังรักษามาตรฐานการยิงประตูในฤดูกาลต่อ ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซีซั่นนี้ก็ยังเดินหน้าไล่ถล่มตาข่าย ทั้งในลีกและในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แบบไม่สนแรงกดดันใด ๆ
แต่เบื้องหลังภาพลักษณ์นักล่าประตูสุดโหดในสนาม กลับมีอีกมุมหนึ่งที่แฟนบอลหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน นั่นคือ ฮาลันด์ในชีวิตประจำวันถูกคนใกล้ชิดอธิบายว่า “เหมือนเด็กตัวโตคนหนึ่ง” ที่ชอบสนุก ขี้เล่น และเป็นกันเองอย่างมาก โดยเฉพาะกับคนทำงานเบื้องหลังสโมสร ทั้งทีมสื่อ ทีมสตาฟฟ์ และเจ้าหน้าที่รอบสนาม
ฟาราซ “FG” กาฟฟูร์ ผู้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่าในรายการ In The Mixer ว่า สิ่งที่ทุกคนเห็นจากฮาลันด์ในกล้องหรือในสนาม แทบจะไม่ต่างจากตัวตนจริง ๆ เลย เขาเป็นคนที่ดูผ่อนคลาย สนุกกับทุกอย่างรอบตัว และพร้อมจะหยอกล้อหรือสร้างบรรยากาศดี ๆ ให้คนรอบข้างเสมอ
FG บอกว่า ถึงแม้ฮาลันด์จะเพิ่งผ่านเกมที่เล่นได้ไม่ดี หรือโดนวิจารณ์จากสื่ออย่างหนัก เมื่อกลับเข้าแคมป์ซ้อมที่ซิตี้ เขายังคงเป็นคนเดิม เดินเข้ามาทักทายคนทำงานในสโมสรด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้แบกความตึงเครียดจากสนามกลับมาสู่ห้องแต่งตัวมากอย่างที่หลายคนคิด นั่นสะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดของกองหน้าชาวนอร์เวย์ที่ไม่ยอมปล่อยให้ความกดดันมาทำลายพลังบวกในแต่ละวัน
เขายังถูกเล่าว่าเป็นคนที่ “เคารพทุกคน” ไม่ว่าจะเป็นสตาฟฟ์ระดับสูง ทีมโค้ช ช่างภาพ จนถึงพนักงานทั่วไปในสนามซ้อม ท่าทีแบบนี้มีผลอย่างมากต่อบรรยากาศการทำงานภายในสโมสร เพราะเมื่อซูเปอร์สตาร์ของทีมแสดงความถ่อมตัวและเป็นมิตร ทีมงานก็ยิ่งทุ่มเทสนับสนุนเบื้องหลังเต็มที่โดยไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกมองข้าม
FG ยังเล่าต่อว่า ในวันเปิดสื่อหรือวันที่มีทีมงานภายนอกเข้ามาทำรายการ ฮาลันด์จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยิ้มแย้ม เล่นมุก หรือทำอะไรขำ ๆ ให้บรรยากาศผ่อนคลาย ซึ่งแตกต่างจากภาพกองหน้าหน้าโหดที่เราเห็นในสนาม ที่ดูจริงจังกับทุกจังหวะการเคลื่อนที่ วิ่งสปรินต์ทุกครั้งที่มีโอกาส และหวังจะทำประตูให้เร็วที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้เขาจะเป็นเหมือน “เด็กตัวโต” ที่ชอบสนุก แต่เวลาทำงานจริงในสนาม ฮาลันด์กลับแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพระดับสูงสุด ทั้งการดูแลสภาพร่างกาย การฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น และการรับมือกับแรงกดดันระดับโลก โดยเฉพาะในเกมใหญ่ ที่สายตาทั้งโลกจับจ้องมาที่เขาแทบทุกวินาที
ผลงานของฮาลันด์ในสนามยังคงสุดยอด เขายิงประตูในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 14 ลูกในฤดูกาลนี้ และยิงเพิ่มอีก 5 ลูกในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากสัญชาตญาณคมจัดอย่างเดียว แต่เกิดจากการปรับตัวและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง FG มองว่าจุดที่ “น่ากลัว” ที่สุด คือเขายังมีพื้นที่ให้พัฒนาได้อีกมาก
ในอดีต ฮาลันด์มักถูกมองว่าเป็นกองหน้าที่เด่นเรื่องการจบสกอร์เป็นหลัก วิ่งหาพื้นที่ ฉีกตัวเองเข้าไปในเขตโทษ ใช้ความเร็วและพละกำลังเป็นอาวุธหลัก แต่ไม่ได้มีบทบาทกับบอลมากนักในจังหวะต่อบอลหรือลงมาล้วงต่ำ ทว่าช่วงหลัง เราเริ่มเห็นเขาลงมาลึกขึ้น เชื่อมเกมมากขึ้น รับบอลหันหลังให้คู่แข่ง แล้วส่งบอลคืนหรือกระจายออกด้านข้างได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
FG เชื่อว่าฮาลันด์ในเวอร์ชันปัจจุบันกำลังเพิ่มมิติใหม่ให้เกมตัวเอง เขาไม่ได้คิดแค่ “วิ่งเข้ากรอบรอบอลจากเพื่อน” อีกต่อไป แต่พยายามมีส่วนร่วมกับการขึ้นเกมตั้งแต่กลางสนามมากขึ้น เมื่อไม่มีเควิน เดอ บรอยน์ คอยปั้นบอลให้แบบเดิม บทบาทของฮาลันด์จึงต้องเปลี่ยน เขาต้องขยับเข้ามาใกล้การเซ็ตเกม ช่วยเชื่อมบอลกับมิดฟิลด์และตัวรุกคนอื่น เพื่อให้การโจมตีของซิตี้ไหลลื่น
โจเลียน เลสค็อตต์ อดีตกองหลังแมนซิตี้ที่นั่งพูดคุยในรายการเดียวกัน ก็เสริมว่า ก่อนหน้านี้ฮาลันด์แทบไม่จำเป็นต้องพัฒนาทักษะการเชื่อมเกมมากนัก เพราะมี เดอ บรอยน์ คอยวางบอลให้แบบจานบิน แค่หาช่อง วิ่งตามจังหวะ และจบสกอร์ก็เพียงพอจะทำลายแนวรับคู่แข่งได้แล้ว แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ระบบทีมพึ่งเขาในด้านอื่นมากขึ้น เขาจึงต้องยกระดับในส่วนนี้ตามไปด้วย
สิ่งที่ทำให้หลายคนยิ่งทึ่ง คือการที่ฮาลันด์สามารถเพิ่มรายละเอียดการเล่นเหล่านี้เข้าไป โดยไม่สูญเสียความโหดในเรื่องการทำประตู เขายังอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะจบสกอร์เสมอเมื่อบอลถูกส่งเข้ากรอบเขตโทษ และยังรักษาความคมได้ในระดับที่กองหน้าทั่วไปทำได้ยาก เมื่อรวมกับความเข้าใจเกมที่ดีขึ้น ทำให้เขาดูเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องและอ่านสถานการณ์ได้หลากหลายกว่าเดิม
นอกสนาม ฮาลันด์ยังเริ่มขยายตัวเองไปสู่บทบาทใหม่ ๆ ทั้งการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ การร่วมงานกับยูทูบเบอร์ หรือการมีโปรเจกต์ “ไซด์ฮัสเซิล” ด้านออนไลน์ที่สะท้อนตัวตนสายเกมส์เมอร์และคนรุ่นใหม่ เขาไม่ได้ทำตัวเป็นซูเปอร์สตาร์ที่วางตัวห่างจากคนดู แต่เปิดช่องให้แฟนบอลเข้าถึงตัวเองผ่านคอนเทนต์ที่มีความเป็นธรรมชาติ สนุก และเต็มไปด้วยมุมขี้เล่นแบบเด็กชายที่ยังหลงรักฟุตบอลเหมือนเดิม
FG มองว่าความ “ผ่อนคลาย” แบบนี้คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ฮาลันด์ยังเดินหน้าเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้โดยไม่ถูกแรงกดดันกัดกินจิตใจจนหมด เขายังย้ำว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ฮาลันด์ยังยิ้มได้ สนุกกับเกม และรักษาทัศนคติที่เป็นบวกต่อทีมและคนรอบข้าง ผลงานในสนามก็จะยิ่งน่ากลัว เพราะเขามีทั้งพรสวรรค์ ความเป็นมืออาชีพ และบุคลิกที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับด้านมืดของวงการ
อีกมุมที่น่าสนใจคือ การที่คนในสโมสรพูดถึงฮาลันด์ว่า “เคารพคนอื่น” เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทีมงานระดับไหนก็ตาม การทักทายยิ้ม ๆ หรือการยอมให้สัมภาษณ์เพิ่มหลังจบงานที่วางแผนไว้แล้วเล็กน้อย ล้วนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระยะยาว เขาไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่เครื่องยิงประตู แต่เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์แมนซิตี้ และเข้าใจว่าทุกคนในสโมสรมีกระบวนการทำงานที่เชื่อมโยงกัน
ในสนาม เขาอาจจะถูกแฟนบอลคู่แข่งโห่ใส่ ถูกกองหลังตามเตะทุกจังหวะ หรือถูกสื่อวิจารณ์ว่า “อยู่เฉย ๆ รอบอล” ในบางเกม แต่ภาพเบื้องหลังที่เล่าผ่านปากคนใกล้ชิด ทำให้เราเห็นอีกด้านว่า นักเตะที่ดูเหมือนเย็นชาและโหดเหี้ยมเวลายิงประตูนั้น แท้จริงเป็นคนที่ยังมีความเป็น “เด็กผู้ชายที่รักการเล่นฟุตบอล” อยู่เต็มเปี่ยม ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขายังสามารถรักษาไฟในตัวเองให้ลุกโชนได้ ไม่รู้สึกหมดแรงใจแม้แบกความคาดหวังของทั้งสโมสรและประเทศไว้บนบ่า
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งมุมความเป็นกันเอง ความขี้เล่น ความเคารพคนรอบข้าง และความจริงจังในเกมระดับสูง ฮาลันด์จึงไม่ได้เป็นแค่กองหน้าที่จบสกอร์โหดที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ แต่ยังเป็น “แพ็กเกจครบ” ของนักเตะยุคใหม่ ที่เข้าใจทั้งเกมในสนาม และเกมภาพลักษณ์นอกสนามอย่างลงตัว
และที่น่ากลัวที่สุดตามคำบอกของ FG ก็คือ เขายังไม่หยุดพัฒนา การเคลื่อนที่โดยไม่ครองบอลดีขึ้น การเชื่อมเกมดีขึ้น การมีส่วนร่วมในจังหวะต่อบอลดีขึ้น ถ้าเขายังรักษามาตรฐานการทำประตูไปพร้อมกับการยกระดับรายละเอียดเหล่านี้ได้ต่อเนื่อง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และกองหลังทุกทีมในยุโรปคงต้องเตรียมตัวรับมือ “เวอร์ชันใหม่” ของฮาลันด์ ที่อาจจะเก่งกว่านี้ไปอีกขั้นถ้าอยากลุ้นประตูสุดโหดของเออร์ลิง ฮาลันด์ให้มันกว่าการนั่งดูเฉย ๆ ลองศึกษาแนวทางวิเคราะห์เกมและราคาต่อรอง ก่อนตัดสินใจในโลกของ ufabet แทงบอล อย่างมีสติและวางแผนเหมือนโค้ชข้างสนาม
เพราะทุกลูกยิงเต็มข้อของเขา อาจกลายเป็นจังหวะทำกำไรให้คุณได้ หากอ่านเกมขาดและใช้โอกาสใน ยูฟ่าเบท แทงบอล อย่างรอบคอบและรับผิดชอบต่อเงินทุนของตัวเองเสม
