ดราม่ากลางสนาม! แข้ง เอฟเวอร์ตัน ตบเพื่อนร่วมทีมโดนใบแดง แต่สุดท้ายยังบุกชนะแมนยู 1-0 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
เหตุการณ์สุดเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นในค่ำคืนพรีเมียร์ลีก เมื่อ เอฟเวอร์ตัน ต้องเล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 13 หลังจาก Idrissa Gueye ถูกผู้ตัดสินชูใบแดงโดยตรง เนื่องจากไป “ตบหน้า” เพื่อนร่วมทีมอย่าง Michael Keane ในจังหวะถกเถียงกลางสนาม
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น กลับกลายเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากกว่า—เอฟเวอร์ตันบุกชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถึงโอลด์แทรฟฟอร์ด 1-0 ได้สำเร็จ ทั้งที่เล่นตัวน้อยกว่าเกือบทั้งเกม และต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลจากเจ้าถิ่นที่กำลังต้องการแต้มอย่างมาก
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงลำดับเหตุการณ์ดราม่าทั้งหมด วิเคราะห์ความวุ่นวายที่นำไปสู่ใบแดง การตอบสนองของทั้งสองทีม ผลกระทบทางแท็คติก และความหมายของชัยชนะครั้งนี้ต่อเอฟเวอร์ตัน รวมถึงความล้มเหลวอีกครั้งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุค Ruben Amorim
นาทีแห่งความวุ่นวายที่ไม่มีใครคาดคิด จุดเริ่มต้นของใบแดงประวัติศาสตร์
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นในช่วงต้นเกม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและเอฟเวอร์ตันยังคงรักษาจังหวะเกมแบบระมัดระวัง สถานการณ์ยังคงเสมอกัน 0-0 แต่จู่ ๆ ความตึงเครียดก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในแดนหลังของเอฟเวอร์ตัน
เมื่อ Gueye และ Keane เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมทีมที่ตกใจอยู่รอบข้าง ทั้งสองคนเดินเข้าหากันแบบประชิดตัว ผลัก–ดัน–เถียง ก่อนที่ Gueye จะยกแขนขึ้นและ ตบเข้าที่ใบหน้าของ Keane อย่างชัดเจน
การกระทำที่ถือว่า “ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมทีม” แบบนี้แม้จะเกิดภายในทีมเดียวกัน แต่ตามกฎฟีฟ่า นับว่าเป็นความผิดร้ายแรงเหมือนการทำฟาล์วใส่คู่แข่ง
ผู้ตัดสินจึงควักใบแดงทันที โดยไม่ต้องปรึกษา VAR มากนัก เพราะภาพเหตุการณ์ปรากฏชัดเต็มตา
ผู้ชมในสนามต่าง ไม่เชื่อสายตา บางคนถึงขั้นยืนขึ้นปรบมือให้ความ “ดุเดือด” ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ขณะที่แฟนแมนยูเองก็ยังอึ้งว่ามันเกิดอะไรขึ้นต่อหน้าพวกเขา
แม้แต่นักวิเคราะห์อย่าง Gary Neville ยังกล่าวว่า
“ผมคิดว่าใบเหลืองก็น่าจะเพียงพอ แต่มันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา และกฎก็เคลียร์มาก การตัดสินแบบนี้จึงเกิดขึ้นได้เสมอ”
Pickford ต้องเข้าห้าม แยก Gueye ออกจากสถานการณ์เดือด
หลังใบแดงถูกชูขึ้น Gueye ยังแสดงอาการไม่พอใจอย่างหนัก พยายามเข้าไปพูดกับผู้ตัดสินและ Keane อีกครั้ง จนทำให้สถานการณ์เริ่มบานปลาย
โชคดีที่ Jordan Pickford นายประตูมือหนึ่งของเอฟเวอร์ตัน เข้ามาห้ามอย่างรวดเร็ว ใช้ทั้งมือและคำพูดดึง Gueye ออกจากจุดปะทะ และผลักให้ถอยออกไปนอกสนามเพื่อไม่ให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม
เอฟเวอร์ตันต้องปรับแผนใหม่ทันที และทุกคนรู้ว่าจากนี้ต้องเล่นด้วย “ใจ” มากกว่า “แท็คติก” เพราะการเจอกับแมนยูในบ้านคือโจทย์ที่ยากอยู่แล้ว ยิ่งต้องเล่น 10 คนตั้งแต่วินาทีนี้ มันเป็นงานที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
สถิติหายาก ผู้เล่นโดนใบแดงเพราะทำร้ายเพื่อนร่วมทีม
ตามข้อมูลจาก Opta เหตุการณ์แบบนี้เรียกว่า “Rare but Real” เพราะมันเกิดขึ้นน้อยมากในประวัติพรีเมียร์ลีก
ตลอดช่วงที่มีการเก็บข้อมูลเชิงลึก มีเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
- Lee Bowyer vs Kieron Dyer (นิวคาสเซิล ปี 2005)
- Ricardo Fuller vs Andy Griffin (สโต๊ค ปี 2008)
- และตอนนี้คือ Gueye vs Keane (เอฟเวอร์ตัน ปี 2025)
นี่จึงกลายเป็นเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกอย่างเลี่ยงไม่ได้ และแฟนบอลทั่วโลกพูดถึงกันข้ามคืน
David Moyes มองต่าง “ผมชอบให้ลูกทีมทะเลาะกันด้วยซ้ำ ถ้ามันทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น”
หลังเกม David Moyes ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน ให้สัมภาษณ์แบบที่ทำให้หลายคนประหลาดใจ
เขาบอกว่า “มันไม่น่าใช่ใบแดง” แต่สิ่งที่สำคัญคือเขาไม่ได้ตำหนิ Gueye เลย แถมยังบอกอีกว่า…
“ผมชอบด้วยซ้ำที่เห็นนักเตะทะเลาะกัน นั่นแปลว่าพวกเขาอยากให้ทีมดีขึ้น พวกเขามีไฟ มีแรงผลักดัน”
เขายังเสริมว่า Gueye ได้ขอโทษเพื่อนร่วมทีมในห้องแต่งตัว และชื่นชมเพื่อนร่วมทีมที่ช่วยกันสู้จนคว้าชัยชนะ
ท่าทีของ Moyes ทำให้เห็นทรรศนะทางฟุตบอลแบบ “Old School” ที่เขาเชื่อว่าความขัดแย้งบางครั้งทำให้นักเตะกระตือรือร้นมากขึ้น ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องลงโทษรุนแรงเสมอไป
10 คนก็ชนะได้! ประตูของ Dewsbury-Hall ที่เปลี่ยนเกมทั้งหมด
แม้จะเหลือ 10 คน แต่เอฟเวอร์ตันกลับไม่ถอยตั้งรับแบบเต็มรูปแบบเหมือนทีมอื่น ๆ
พวกเขายังกล้าบุกในจังหวะสวนกลับ และตอบโต้โดยใช้ความเร็วของแนวรุกและการจ่ายบอลที่เฉียบของแดนกลาง ก่อนจะมาได้ประตูสุดงามจาก Kiernan Dewsbury-Hall
ลูกยิงไกลนอกกรอบของเขาเสียบมุมอย่างสวยงาม ทำให้แฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่ตามไปเชียร์ถึงแมนเชสเตอร์ ถึงกับตะโกนดีใจอย่างบ้าคลั่ง
ประตูนี้ไม่ใช่แค่ช่วยชีวิตทีม แต่ยังแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ และความมั่นใจของนักเตะที่ Moyes ปั้นขึ้นมาในซีซั่นนี้
แมนยูของ Ruben Amorim ยังเต็มไปด้วยคำถาม ทำไมเล่นดีกว่าแต่กลับไร้ไอเดีย?
หลังเกม เสียงโห่จากแฟนแมนยู ดังไปทั่วโอลด์แทรฟฟอร์ด ความผิดหวังไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะยูไนเต็ดกำลังเผชิญปัญหาเดิม ครองบอลเยอะ แต่หาจังหวะยิงแบบมีคุณภาพไม่ได้
Ruben Amorim ให้สัมภาษณ์ว่า
“เราทำทุกอย่างผิด ทั้งที่เล่นมากกว่า 1 คน เราควรคุมบอลและกดดันให้หนัก แต่เราปล่อยให้เอฟเวอร์ตันมีพื้นที่เล่นมากเกินไป”
แมนยูสร้างโอกาสได้หลายครั้ง โดยเฉพาะครึ่งหลังที่พยายามเปิดบอลและยิงจากจังหวะสอง แต่ คุณภาพและการตัดสินใจในพื้นที่สุดท้ายหายไปหมด
ยูไนเต็ดเหมือนทีมที่ไม่เข้าใจว่า “วิธีเล่นกับทีมที่เหลือ 10 คนต้องทำแบบไหน”
และนี่คือคำวิจารณ์ที่หนักหน่วงที่สุดต่อ Amorim ตั้งแต่รับตำแหน่งมา
เอฟเวอร์ตันปีนี้คือทีมที่ “มีใจ” มากกว่า “มีซูเปอร์สตาร์”
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ขยับขึ้นไปรั้งอันดับที่ 11 เท่ากับแมนยู ลิเวอร์พูล และท็อตแนม ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก เมื่อเทียบกับขุมกำลังที่ไม่ใหญ่ และงบประมาณที่จำกัด
ทีมของ Moyes พิสูจน์ให้เห็นว่า
- พวกเขามีระบบที่ชัดเจน
- นักเตะทำงานหนักเพื่อกันและกัน
- และกลับมามี DNA ความอึด เหนียวแน่น ดุดัน แบบทีมเอฟเวอร์ตันยุคคลาสสิกอีกครั้ง
ชัยชนะในเกมนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของฤดูกาล และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่นทั้งทีมในแบบที่ค่าตัวแพงแค่ไหนก็ซื้อไม่ได้
สรุปภาพรวม: ดราม่า ใบแดง ความโกลาหล และชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของเอฟเวอร์ตัน
เกมนี้คือหนึ่งในแมตช์ที่ “ครบทุกอารมณ์”
- มีดราม่าในทีมตัวเอง
- มีใบแดงที่หาดูแทบไม่ได้
- มีจังหวะเฉียบของ Dewsbury-Hall
- มีความผิดหวังแบบเจ็บลึกของแฟนแมนยู
- และจบด้วยชัยชนะสุดเร้าใจของเอฟเวอร์ตัน
มันคือค่ำคืนที่ทีมของ Moyes โชว์ให้เห็นว่า พลังของ “หัวใจนักสู้” นั้นทรงพลังกว่าแท็คติกสวยหรูหลายเท่า
อยากติดตามแมตช์เดือดแบบนี้แบบเรียลไทม์ พร้อมดูราคาต่อรองอัปเดตอย่างแม่นยำ ลองเข้าใช้ช่องทางเดิมพันที่ให้คุณเชื่อมต่อทุกเกมใหญ่ทั่วโลกได้ในที่เดียว เพียงคลิก ufabet ทางเข้า คุณจะได้ประสบการณ์ทั้งข่าวบอล สถิติ และการเดิมพันแบบครบจบในแพลตฟอร์มเดียว
