“บทสนทนาครั้งนั้นเปลี่ยนผม”: ออเรเลียง ชูอาเมนี เปิดใจถึง ชาบี อลอนโซ่ โค้ชผู้สร้างจุดเปลี่ยนในอาชีพ
ในช่วงเวลาที่เขาถูกตั้งคำถาม เรื่องอนาคตในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ออเรเลียง ชูอาเมนี กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสของเรอัล มาดริด กลับแสดงความเฉียบคมทั้งในเกมและคำพูด ด้วยการออกมายกย่อง ชาบี อลอนโซ่ ผู้จัดการทีมชาวบาสก์ ว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดในการพัฒนาฝีเท้าของเขาตั้งแต่ฤดูกาลนี้เริ่มต้น
แม้ชูอาเมนีจะมีสไตล์ที่แตกต่างจากอลอนโซ่ในฐานะผู้เล่น แต่ทั้งคู่มีจุดร่วมในเรื่องตำแหน่งและหน้าที่ในสนาม สิ่งที่ชูอาเมนีได้รับจากอลอนโซ่จึงเป็นเรื่องของการวางตำแหน่ง การอ่านเกม และการควบคุมจังหวะ ซึ่งเขาเชื่อว่ามันเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เขากลับมาโดดเด่นในฤดูกาลนี้
“ตั้งแต่วันแรก เรามีการประชุมแบบตัวต่อตัว เขาเปิดวิดีโอให้ดู พร้อมชี้ให้เห็นถึงจุดที่ผมต้องพัฒนา — การยืนตำแหน่งทั้งตอนมีและไม่มีบอล”
— ชูอาเมนีกล่าว
เสียงโห่จากกองเชียร์: จากความเจ็บปวดสู่แรงผลักดัน
ย้อนกลับไปในเกม เอล กลาซิโก้ นัดซูเปอร์คัพที่เรอัล มาดริดแพ้บาร์เซโลนาแบบขาดลอย 5-2 ชูอาเมนีตกเป็นเป้าโห่ของกองเชียร์หลังจากเล่นในตำแหน่งไม่ถนัดอย่าง “เซ็นเตอร์แบ็ก” และมีผลงานน่าผิดหวัง
“ผมรู้ตัวว่าผมเล่นไม่ดีในเกมนั้น และระหว่างเดินออกจากสนาม ผมรู้สึกถูกชี้นิ้วว่าเป็นต้นเหตุความพ่ายแพ้”
สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมถัดมา — นัดเจอกับเซลต้า บีโก้ — ถือเป็นจุดเปลี่ยนในความคิดของเขา
“ก่อนเกม ผมบอกตัวเองว่า ‘ถ้าพวกเขาจะโห่ ก็ให้มันโห่เลย’ และมันก็เกิดขึ้นแบบนั้นจริงๆ แต่ผมเลี้ยงบอล เล่นจังหวะดีๆ หลายครั้งจนเสียงโห่เงียบหายไป ผมจำได้ว่าเกมนั้นผมเล่นได้ดีมาก และหันมาขอบคุณเสียงโห่เหล่านั้นด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้ผมโตขึ้น”
ชาบี อลอนโซ่: มากกว่าโค้ช คือผู้มองเห็น “พื้นที่ใหม่” ในตัวชูอาเมนี
การมาของอลอนโซ่ ไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนแปลงที่ม้านั่งผู้จัดการทีม แต่ยังเปลี่ยนมุมมองของนักเตะหลายคน โดยเฉพาะคนที่เคยถูกมองว่า “ไม่เข้าระบบ” อย่างชูอาเมนี
“เขาให้บทเรียนสำคัญเรื่องการยืนตำแหน่ง การวิ่งแบบมีประสิทธิภาพ พื้นที่ที่เรียกว่า ‘สแควร์’ — คุณไม่ต้องวิ่งเยอะเพื่อให้ได้บอล ถ้าคุณรู้ว่าจะอยู่ตรงไหน”
— ชูอาเมนีกล่าว
อลอนโซ่ดูเหมือนเข้าใจดีว่าชูอาเมนีจะพัฒนามากขึ้นได้อย่างไร และไม่แปลกที่เราจะเห็นกองกลางชาวฝรั่งเศสกลายเป็นแกนหลักของทีมในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นในบอลลีกหรือยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
โครงสร้างกองกลางของเรอัล มาดริดในยุคอลอนโซ่
แม้ตอนนี้ชูอาเมนีจะอยู่ในตำแหน่งหนึ่งในกองกลางที่เชื่อใจได้มากที่สุด แต่ในระบบกองกลาง 2 หรือ 3 คน ยังมีคำถามเรื่อง “คู่ข้าง” ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา
ความจริงแล้ว จู๊ด เบลลิ่งแฮม เองก็กลับมาฟอร์มดีหลังหายจากอาการบาดเจ็บ แต่ยังมีบางจังหวะที่ดูไม่เข้าขากันแบบ 100%
ส่วน เอดูอาร์โด คามาวิงก้า และ เฟเด้ บัลเบร์เด้ เป็นนักเตะที่ทำงานหนัก และช่วยปิดเกมได้ดี ทว่าบางครั้งก็ดูขาดความชัดเจนในเกมรุก-รับร่วมกับชูอาเมนี
แสดงให้เห็นว่า อลอนโซ่ยังต้องค้นหารูปแบบที่ลงตัวที่สุดสำหรับการหมุนเวียนกองกลางทั้ง 5 คนในระบบของเขา
จาก “ถูกโห่” สู่ “กลายเป็นเสาหลัก”
ชูอาเมนีคือกองกลางวัย 25 ปีที่เคยถูกแฟนบอลตั้งคำถามอย่างหนักถึงระดับที่มีคนเสนอให้ขายออกไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังเอล กลาซิโก้ เกมซูเปอร์คัพที่ผิดพลาด
แต่ทุกอย่างเหมือนถูกรีเซ็ตใหม่ในยุคของอลอนโซ่ เขากลับมามีความมั่นใจ กลายเป็นผู้เล่นที่จับจังหวะเกมได้ดี สกัดบอลเฉียบขาด และตั้งเกมจากแดนกลางได้อย่างสมดุล
“ผมโชคดีมากที่ได้เจอโค้ชอย่างเขา เขาเปิดโลกฟุตบอลในส่วนที่ผมมองข้ามไป” ชูอาเมนีกล่าว
เจาะลึกสถิติ: ตัวเลขไม่โกหกความเปลี่ยนแปลง
ฤดูกาลนี้ ชูอาเมนีมีตัวเลขที่โดดเด่นกว่าเดิมอย่างชัดเจน เช่น
- ผ่านบอลแม่นยำมากขึ้นถึง 92%
- แย่งบอลกลับมาได้เฉลี่ย 8 ครั้งต่อนัด
- ช่วยสร้างเกมจากฝั่งรับเป็นรุกได้ถึง 5 ครั้งต่อนัด
- ความผิดพลาดในจังหวะเปลี่ยนเกมลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แสดงถึงการพัฒนาความอ่านเกม และการยืนตำแหน่งที่เฉียบคมขึ้นมาก
อลอนโซ่กับศิลปะแห่งการโค้ชจาก “ภายใน”
ความสำคัญของอลอนโซ่ในฐานะโค้ชคือ เขาไม่เพียงพูดถึงทฤษฎีหรือระบบเท่านั้น แต่ยังสามารถ “สื่อสารภายในจิตวิญญาณ” ของนักเตะได้
การมองเกมแบบละเอียดอ่อน และการเข้าใจวิธีปลดล็อกตัวตนที่ดีที่สุดของนักเตะ คือสิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
และนั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “เรอัล มาดริดกำลังก้าวสู่ยุคใหม่” ไม่ใช่แค่ในสนาม แต่ในแนวคิดการพัฒนานักเตะด้วย
สิ่งที่เรอัล มาดริด “ต้องมี” เพื่อพาชูอาเมนีไปถึงจุดสุดยอด
แม้ชูอาเมนีจะไปได้ไกลขนาดนี้ แต่หากมาดริดยังไม่สามารถสร้างจังหวะเชิงกลยุทธ์ที่เข้ากับเขาได้เต็มที่ เราอาจไม่ได้เห็นศักยภาพเต็ม 100% ของเขา
สำหรับเขาและทีม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ “โครงสร้างที่เหมาะสมในการหมุนเวียน” ทั้งในเกมรุกและเกมรับ โดยเฉพาะเมื่อมาดริดเตรียมเข้าโหมดเฟสสุดท้ายของการแข่งขันทั้งลีกและแชมเปียนส์ ลีก
สรุป: ชูอาเมนี นักเตะที่เปลี่ยนเสียงโห่ให้กลายเป็นปรบมือ
ในโลกของฟุตบอล ความกดดัน ความล้มเหลว และเสียงโห่ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่ไม่ใช่นักเตะทุกคนที่จะใช้มันเป็นเวทีการเติบโตได้
ชูอาเมนีไม่เพียงเปลี่ยนเสียงโห่ในเบร์นาเบวเป็นเสียงปรบมือ แต่ยังเปลี่ยนมุมมองของคนดูและนักวิจารณ์ที่เคยมองว่าเขา “ไม่ใช่ของแท้”
การมีโค้ชที่ใส่ใจในรายละเอียดอย่างอลอนโซ่ ไม่ใช่เรื่องโชค แต่เป็นจุดบรรจบของ “ศักยภาพ” และ “สติปัญญา” ที่ทำให้นักเตะคนหนึ่งก้าวไปอีกขั้น และเขายังไม่หยุดเพียงเท่านี้
อยากพัฒนาความรู้ด้านฟุตบอล ลองแทงบอลแบบเข้าใจเกมก่อนใคร ufabet แทงบอล ระบบรวดเร็ว ราคาน้ำดี เดิมพันได้ทุกลีก พร้อมวิเคราะห์เกมให้คุณล่วงหน้า คุ้มค่าทุกคู่!
